ส.ป.ก.ยืนยันไม่เคยเห็นชอบให้มีการอนุญาตให้ทำการสำรวจ หรือทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ ส.ป.ก. 5 จังหวัดพร้อมเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ขอชาวบ้านสบายใจได้
จากกรณีกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอให้เร่งรีบตรวจสอบ การดำเนินการเอากฎหมายป่าไม้ มาครอบลงไปบนที่ดินอยู่อาศัย และที่ทำกินของชาวบ้าน 5 จังหวัด บนเส้นทางแร่ทองคำ ซึ่งตกอยู่ใต้คำขอและอาชญาบัตรพิเศษ ของบริษัทเหมืองทองคำข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่ได้ระบุที่ดินประเทศไทย 5 จังหวัด พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร ลพบุรี และสระบุรี เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ค.) นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ด้วยความห่วงใยในปัญหาของพี่น้องประชาชน รมว.เกษตรฯ จึงได้สั่งการให้ ส.ป.ก. เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่ง ส.ป.ก. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า กรณีที่พื้นที่ทั้ง 5 จังหวัด (พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร ลพบุรี และสระบุรี) ที่มีการกล่าวอ้างว่าได้มีการออกอาชญาบัตรพิเศษเพื่อสำรวจแร่ทองคำบนพื้นที่ ส.ป.ก. นั้น ขอเรียนว่า ส.ป.ก. ไม่เคยเห็นชอบให้มีการอนุญาตให้ทำการสำรวจหรือทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ ส.ป.ก. กับ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส แม้แต่จังหวัดเดียว ซึ่งหากจะมีการดำเนินการจะต้องขออนุญาตจาก ส.ป.ก. ก่อนทุกกรณี และกรณีพื้นที่ 150,000 ไร่ ใน จ.ลพบุรี ที่ได้มีการกล่าวอ้างว่ามีการนำกฎหมายป่าไม้มาบังคับใช้ในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. นั้น ข้อเท็จจริงพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ ส.ป.ก. แต่เป็นพื้นที่ในความดูแลของกรมป่าไม้มาแต่เดิม ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ขอเช่าจากกรมป่าไม้เพื่อจัดตั้งนิคมสหกรณ์ชัยบาดาลและหมดสัญญาเช่าเมื่อปี 2560 และปัจจุบันกรมป่าไม้กำลังจะนำมาดำเนินการให้สิทธิ์แก่ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวในรูปแบบของ คทช.
...
นอกจากยังมีกรณีที่ราษฎรกล่าวอ้างว่ามีเอกสาร สค.1 มาตั้งแต่ปี 2495-2498 และต้องการออกเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน สามารถติดต่อขอเข้าสู่กระบวนการได้ที่ สนง.ที่ดินจังหวัดลพบุรี เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินของรัฐจังหวัด (คพร.จังหวัด) เพื่อพิจารณาออกเอกสารสิทธิต่อไป
ทั้งนี้ นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มผู้ร้องเรียนได้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงในครั้งนี้ด้วย พร้อมกับได้พูดคุย แลกเปลี่ยน และรับฟังปัญหาด้วยความเข้าใจอย่างดี ซึ่ง ส.ป.ก. และแกนนำกลุ่มผู้ร้องเรียนจะได้ตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้แทนกลุ่มผู้ร้องเรียนและเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ที่เกี่ยวข้อง ขึ้นมาเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ ส.ป.ก. โดย ผู้อำนวยการสำนักจัดการปฏิรูปที่ดินและผู้อำนวยการสำนักกฎหมายจะได้ลงพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วต่อไป ซึ่งทางแกนนำกลุ่มผู้ร้องเรียนรู้สึกพอใจและขอบคุณ ส.ป.ก. มา ณ โอกาสนี้
“ส.ป.ก.จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้คลายความวิตกกังวล โดยจะนำปัญหาของพี่น้องประชาชนไปนำเรียนท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนผลักดันให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้ง 5 จังหวัด ได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด” เลขาธิการฯ ส.ป.ก.กล่าว.