สภาพเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ ต้องยอมรับความจริงว่า หลังพิงฝา นอกจากปากท้องของพี่น้องประชาชนแล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือ คุณภาพทรัพยากรบุคคลของประเทศ ที่จะได้รับผลกระทบทั้งจากสภาพเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ปตท.กรุ๊ป ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีเป้าหมายทางธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้จัดกิจกรรม โครงการลมหายใจเดียวกัน ขึ้นมาดูแลรักษาให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งด้านการรักษาพยาบาลและการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์สร้างความยั่งยืนในประเทศ

ในมิติการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชนและสังคม และมิติการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากเรื่องของสาธารณสุข เรื่องของเศรษฐกิจปากท้องที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต รวมทั้งระบบการศึกษาของประเทศ การด้อยโอกาสของเด็กและเยาวชนในการเข้าถึงการศึกษาระบบดิจิทัล การเรียนการสอนทางไกล กลายเป็นปัญหาใหญ่ของการศึกษาไทย มีเด็กและเยาวชนในต่างจังหวัดที่มีฐานะยากจนจำนวนไม่น้อยที่ต้องออกจากระบบการศึกษาในช่วงที่โควิดระบาดไปโดยปริยาย

ทำให้คณะกรรมการผู้บริหาร ปตท.ที่มี ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธาน ร่วมหารือกับทุกหน่วยงานของ ปตท.ที่เกี่ยวข้องรวมถึงคณะกรรมการบอร์ด ปตท. และ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เห็นตรงกันว่า งานการศึกษาเป็นงานที่ ปตท.ให้ความสำคัญตลอดมา จึงตั้งใจที่จะสานต่อโครงการให้การสนับสนุนการศึกษา สร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับการศึกษาต่อไป เป็นการต่อยอดสร้างโอกาสอย่างยั่งยืนให้กับระบบการศึกษาของไทย ที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพของประเทศ ในการนำความรู้มาพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของคนในประเทศต่อไป

...

ทั้งนี้ ได้มีการลงนามความร่วมมือใน โครงการลมหายใจเดียวกันเพื่อน้อง โดยในเบื้องต้นจะเป็นการมอบโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสได้มีโอกาสเรียนต่อ จำนวน 60,000 คน ซึ่ง อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท. ได้อธิบายว่า ปัญหาเศรษฐกิจภาคครัวเรือนจากวิกฤติโควิด เป็นปัญหาสะสม และส่งผลกระทบไปถึงการศึกษาของเด็กและเยาวชนโดยตรง ที่จะต้องออกจากระบบการศึกษาอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น โครงการลมหายใจเดียวกันเพื่อน้อง จึงมีการจัดกิจกรรมวิ่งสะสมระยะทาง Virtual Run เพื่อแปลงเป็นทุนการศึกษาที่ตั้งเป้าไว้จำนวน 150 ล้านบาท สำหรับทุกๆระยะทางการเดิน-วิ่ง 10 กิโลเมตร จะแปลงเป็นเงิน 2,500 บาท ที่จะช่วยเด็กและเยาวชนเข้าระบบได้ 1 คน และ ปตท.ช่วยสมทบอีก 1 คน

สามารถสมัครได้ฟรีตั้งแต่ 15 พ.ค.เป็นต้นไป เริ่มสะสมระยะทางตั้งแต่ 15 พ.ค.-30 มิ.ย.2565 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ลมหายใจเพื่อน้อง.com

ทั้งนี้ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาชี้ว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของไทยเมื่อเทียบกับขนาดประชากรของครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำมีมากกว่า 2 ล้านคนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลต่อปัญหาความยากจนข้ามชั่วคน รวยกระจุกจนกระจายเป็นปัญหาระดับชาติอีกยาวนาน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th