“ลมหายใจเดียวกัน” อาจเป็นเพียงคำสั้นๆ แต่ความหมายของมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมากนัก เพราะนี่คือชื่อของโครงการที่ CEO ของ ปตท. คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ได้ริเริ่มขึ้นมา ผ่านความร่วมมือของกลุ่ม ปตท. ที่ดำเนินการมายาวนานกว่า 2 ปี โดยมีเป้าหมายสำคัญเพียงหนึ่งเดียวคือการอยู่เคียงข้างคนไทยในยามวิกฤตจากโควิด-19 ซึ่งผลลัพธ์จากการดำเนินงานในหลากหลายรูปแบบ ก็สะท้อนภาพชื่อโครงการได้อย่างแจ่มชัด ว่านี่คือการลงมือทำด้วยความเชื่อมั่นว่าเราคนไทยต่างมีลมหายใจเดียวกันอย่างแท้จริง

จากการเดินทางต่อสู้ทุกอุปสรรคของคนไทยทุกภาคส่วน กลุ่ม ปตท. จึงได้ส่งบทเพลงความหมายดีๆ ที่มีชื่อเดียวกันกับโครงการอันเป็นหัวใจของภารกิจนี้ ในชื่อว่า “ลมหายใจเดียวกัน” มาให้คนไทยทุกคนได้รับฟัง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวจากวันแรก จนถึงวันที่เราพร้อมแล้วจะก้าวต่อไปสู่อนาคต เพื่อประเทศไทยของเราทุกคน

“ค่อยๆ คิด

ค่อยๆ นึก

ค่อยๆ นับ

เราเจออะไรกันมาบ้าง”

บทเพลง “ลมหายใจเดียวกัน” เริ่มต้นด้วยประโยคที่ชวนให้ทุกคนย้อนระลึกถึงวันแรกๆ ที่วิกฤตลูกใหญ่ซัดถาโถมคนไทยอย่างไม่ทันตั้งตัว ในวันนั้น มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมนสิ้นหวัง ไม่มีแสงสว่าง จนยากจะคิดว่าจะผ่านพ้นไปได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ความยากลำบากในวันนั้น รวมไปถึงอุปสรรคต่างๆ ที่เราต้องเผชิญ ต่างทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น และก้าวข้ามมันมาได้ โดยมีหนึ่งในพลังสำคัญคือการอยู่เคียงข้างกันและกัน ดั่งเนื้อหาในบทเพลงที่ขับร้องเอาไว้อย่างซาบซึ้งว่า

“อุปสรรคจะหนักสักเท่าไหร่ จะยากลำบากสักแค่ไหน แต่ก็ยังมีฉันกับเธอ เราที่จะยังเดินไปด้วยกัน”

“มือคอยกุมมือ และดวงใจคอยคล้องใจ ต้องไปถึงจุดหมายสักวัน”

เนื้อหาในส่วนนี้สะท้อนเรื่องราวของสังคมไทยได้อย่างแจ่มชัดและงดงามที่สุด ดังที่เราสามารถเห็นได้ตลอดระยะเวลาการต่อสู้อันยาวนานว่า “พลังแห่งความร่วมมือ” ที่จะอยู่เคียงข้างกันและกันในยามวิกฤต ไม่ทอดทิ้ง ไม่ยอมแพ้ และไม่สิ้นหวัง คือหัวใจหลักที่ทำให้คนไทยก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้มาได้ เช่นเดียวกับอุปสรรคมากมายที่เราเคยเอาชนะมาได้ในอดีต การต่อสู้ ความสามัคคีช่วยให้คนไทยยืนหยัดฟันฝ่าทุกอุปสรรคอย่างเข้มแข็ง

เช่นในครั้งนี้ ที่ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแบ่งเบาภาระระบบสาธารณสุข ทั้งในเรื่องของเงินทุน การส่งมอบอุปกรณ์ที่จำเป็นไปยังโรงพยาบาลต่างๆ และเจ้าหน้าที่หน้าด่านที่ต้องรับมือกับโรคร้ายอย่างแข็งขัน รวมไปถึงการก่อตั้งโรงพยาบาลสนามและจุดคัดกรอง End-to-End ณ อาคาร Enco Terminal ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือทั้งผู้มีความเสี่ยงและผู้ป่วยจำนวนมาก กระทั่งในปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ก็ยังคงเดินหน้าในภารกิจดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อสู้ร่วมกันกับทุกคน มุ่งฟื้นฟูบ้านของเราให้กลับมาสวยงามและเต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจดีๆ ดังเดิม

ในวันนี้ หากเราลองย้อนกลับไปมองยังเส้นทางที่ก้าวข้ามมา จะพบว่าทุกคนเดินทางมาไกลมากจากวันที่ทุกอย่างดูเหมือนจะไร้ทางออก

และตอนนี้พวกเราก็พร้อมแล้วที่จะมุ่งสู่อนาคตใหม่อย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เช่นเดียวกับเนื้อหาในส่วนสุดท้ายของเพลงที่ขับร้องเอาไว้อย่างน่าฟังว่า

“เพื่อประเทศไทยที่เรารัก เพื่อประเทศไทยที่เป็นเหมือนบ้านของเธอและฉัน”

“จะไม่ยอมเดินกลับหลัง จะไม่ยอมหมดความหวัง จะก้าวต่อไป ด้วยลมหายใจเดียวกัน”