กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สดช.) ภารกิจ ก้าวต่อไป ขับเคลื่อนสู่ “ดิจิทัลไทยแลนด์” ในปี 65 ให้ทุนอุดหนุน เพื่อประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะ ตามนโยบาย ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน
วันที่ 9 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เป็นไปตามนโยบายและแผนระดับชาติด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อนำพาประเทศก้าวสู่ “ดิจิทัลไทยแลนด์”
นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการ สดช. (ลดช.) ชี้ว่า “กองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ ได้ให้ทุนอุดหนุนการวิจัยและพัฒนา ด้วยการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมจากหน่วยงานของรัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไป ที่มีแนวคิดในการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เป็นประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะ และไม่เป็นการแสวงหากำไร โดยไม่เป็นการทำลายการแข่งขันอันพึงมี ตามปกติวิสัยของกิจการภาคเอกชน มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และมีการอนุมัติทุนอุดหนุนไปแล้วเกือบ 200 โครงการ รวมวงเงินงบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท”
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ลดช. ย้ำว่า เป็นอีกปีที่ กองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ มีผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานตามเป้าหมาย โดยได้ให้ทุนสนับสนุนถึง 2 ครั้ง ตามนโยบายของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประกอบด้วย
...
1. การเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (1) และ (2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ภายใต้กรอบนโนบาย 6 ด้าน ได้แก่ ด้าน Digital Manpower, ด้าน Digital Health, ด้าน Digital Agriculture, ด้าน Digital Technology, ด้าน Digital Government & Infrastructure และด้าน Digital Agenda โดยมีผู้ยื่นเสนอโครงการเพื่อขอการสนับสนุนมากกว่า 600 โครงการ ซึ่งมีโครงการที่ผ่านการพิจารณา และเซ็นสัญญารับทุน จำนวน 43 โครงการ วงเงินกว่า 2,800 ล้านบาท
2. การเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (6) สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย ในส่วนของการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G ซึ่งมีโครงการที่ผ่านอนุมัติ และกำลังดำเนินโครงการ จำนวน 8 โครงการ อาทิ โครงการ Use Case ระบบในการคัดกรองและแจ้งเตือน สำหรับ phuket Sandbox เตรียมความพร้อมในการเปิดเศรษฐกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District) จังหวัดเชียงใหม่ ส่วน 5G Smart Health โครงการนำร่องในการต่อยอดการใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทยด้านการส่งเสริม สถานีอัจฉริยะ (Smart Station) ณ สถานีกลางบางซื่อ
“ทั้งนี้ กองทุนฯ เน้นย้ำถึงหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาโครงการหรือกิจกรรมที่เสนอขอรับการส่งเสริมสนับสนุน จะต้องมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม มีการเชื่อมโยงเป้าหมายความสำเร็จของโครงการกับวัตถุประสงค์หรือกิจกรรม ระยะเวลา และงบประมาณที่ใช้ในโครงการมีความเหมาะสม อีกทั้งจะต้องเกิดประโยชน์ในวงกว้าง รวมทั้งมีความยั่งยืนหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ ขณะเดียวกันยังได้มีการติดตามและประเมินผลภายใต้หลักของความโปร่งใส และชัดเจนในทุกขั้นตอนเป็นสำคัญ ทำให้โครงการที่ได้รับการสนับสนุนมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อสาธารณะ” นายภุชพงค์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ลดช. ยังกล่าวถึงผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตามตัวชี้วัดการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2564 ที่กำหนดโดยกรมบัญชีกลาง ซึ่งผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดี โดยจะเห็นได้จากระดับความสำเร็จในการติดตามประเมินผลโครงการที่กองทุนฯ ให้การสนับสนุน และผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ที่ร้อยละ 4.32 จากคะแนนเต็มร้อยละ 5 ทั้งนี้ กองทุนฯ ยังสามารถเบิกจ่ายงบประมาณโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ตามมาตรา 26 (1) (2) และ (6) ในภาพรวมไปแล้วกว่าร้อยละ 80
สำหรับก้าวต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กองทุนฯ ยังคงมุ่งเป้าให้ทุนอุดหนุนการวิจัยและพัฒนา โดยได้มีการเปิดรับข้อเสนอโครงการของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามมาตรา 26 (1) และ (2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1 ภายใต้กรอบนโยบาย 4 ด้าน ได้แก่ ด้าน Digital Agriculture, ด้าน Digital Government & Infrastructure, ด้าน Digital Manpower และ ด้าน Digital Technology โดยเปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ในเวลา 16.30 น. สามารถติดตามข้อมูลหลักเกณฑ์และยื่นขอรับทุน ได้ที่เว็บไซต์ https://defund.onde.go.th หรือโทร.02-142-7575
...
"ภายใต้การทำงานของ กองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ ที่ดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ 5 และในส่วนของการให้ทุนเป็นปีที่ 4 ต้องถือว่า สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน อีกทั้งยังทำให้เกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม เกิดการพัฒนาได้ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่อยากเห็นต่อไปคือ การขยายประโยชน์ไปสู่ประชาชนในวงกว้างมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนต่อประเทศชาติ" นายภุชงค์ กล่าวทิ้งท้าย