จากกรณีที่นายอรรถพล ตรึกตรอง อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อดำเนินคดีกับนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งปลัด ศธ. และนายประเสริฐ บุญเรือง ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองปลัด ศธ. เนื่องจากทั้งสองคนร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กรณีประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 เพื่อพิจารณาวาระการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้พิจารณาคดีดังกล่าวจากหลักฐานและข้อกฎหมายต่างๆรอบด้าน ศาลได้พิพากษาให้มีการยกฟ้องนายการุณ และนายประเสริฐ ไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นายอรรถพลเปิดเผยว่า แม้ว่าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางจะตัดสินคดีดังกล่าวไปแล้ว แต่ก็เปิดช่องให้ตนสามารถยื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวได้อีกถึงวันที่ 27 มี.ค.นี้ ดังนั้น ตนจึงได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายได้รวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากตนคิดว่ายังมีหลายประเด็นที่ศาลมีคำตัดสินออกมายังไม่เคลียร์ ดังนั้น คดีนี้จึงยังไม่ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด เพราะที่ผ่านมาหลายคดีที่มีการยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลพลิกกลับมาก็มีไม่น้อย จึงไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นที่สิ้นสุดแล้ว ตนจะสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความเป็นธรรมและเกียรติยศของตน

อดีตเลขาธิการ กช.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยได้ยื่นฟ้องตนในขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กช.ในมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า มีการสั่งการให้โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยอยู่ในความควบคุมตาม พ.ร.บ.เอกชนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอศาลอาญาทุจริตกลางนัดตรวจสอบพยานหลักฐาน แต่กลับพบว่าทนายความของทางโรงเรียนมีการเผยแพร่ข่าวว่าศาลรับฟ้องเรื่องดังกล่าวแล้วนั้น เรื่องนี้ได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับตน ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาฐานความผิดอาญาตามมาตรา 175 พร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท จากมูลนิธิ ประธานมูลนิธิ และกรรมการมูลนิธิคนอื่นๆ ถ้ามีหลักฐานว่ามีส่วนร่วมด้วย โดยศาลอาญานัดไต่สวนคำฟ้องในวันที่ 30 พ.ค.นี้.

...