คู่รักต่างจูงมือจดทะเบียนสมรส รับวันวาเลนไทน์ปีนี้สุดชื่นมื่น โดยแต่ละจังหวัดต่างจัดกิจกรรมสุดหลากหลาย แต่ที่ฮือฮาคู่รัก LGBTQ จูงมือมาจดทะเบียนด้วย แต่ใช่จะสมหวัง โดยที่เขตบางรัก คู่รักชายกับชายเจอเขตแจ้งไม่มีคุณสมบัติที่จะจดทะเบียนสมรสได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขณะที่เขตบางขุนเทียนจัดใหญ่รับจด “ใบรับการแจ้งชีวิตคู่” แต่ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย แค่ประกาศให้สังคมได้รับรู้ ระหว่างรอ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ขณะที่เปิดสถิติวาเลนไทน์เมืองกรุงปีนี้ 50 เขต จดทะเบียนสมรส 2,264 คู่ จดทะเบียนหย่า 56 คู่
เป็นประจำทุกปีเมื่อถึงวันที่ 14 ก.พ.ที่ทั่วโลก ถือเป็นวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ภาครัฐและเอกชนจะจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดพิธีวิวาห์และจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รัก โดยแต่ละจังหวัดต่างงัดของดีในพื้นที่เป็นจุดขายจัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสอย่างชื่นมื่น อาทิ จ.พิษณุโลก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับจังหวัดพิษณุโลก การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก อำเภอเนินมะปราง และเทศบาลตำบลบ้านมุง จัดกิจกรรม “ปีน ปั่น ปลูก ผูกใจ...รักไร้พรมแดน” บริเวณหน้าผา Hard Rock อ.เนินมะปราง มีคู่บ่าวสาวที่เดินทางมาจากทั่วประเทศจำนวน 21 คู่ มีทั้งผู้พิการทางสายตา และผู้พิการทางร่างกาย คู่รักชายกับชาย และหญิงกับหญิง มาลงทะเบียนและจดทะเบียนสมรสริมหน้าผา ก่อนที่ปีนขึ้นไปบนหน้าผารูปหัวใจ เพื่อถ่ายภาพพร้อมกับทะเบียนสมรส มีนายรณรงค์ นครจินดา รอง ผวจ.พิษณุโลก นายไสว เจริญศรี นายอำเภอเนินมะปราง และแขกผู้มีเกียรติร่วมกันเป็นสักขีพยาน โดยพื้นที่บ้านมุง อ.เนินมะปราง มีภูเขาหินปูนสวยงาม ถูกขนานนามว่า “กุ้ยหลิน เมืองไทย” นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานและปลูกต้นไม้ คือต้นสร้อยสยาม
...
ที่ จ.นครสวรรค์ นายปรีชา เดชพันธุ์ รอง ผวจ.นครสวรรค์ เป็นประธานจัดกิจกรรม “มหัศจรรย์วันวาเลนไทน์ @พาสานต้นแม่น้ำเจ้าพระยา” ประจำปี 2565 มีคู่บ่าวสาว 20 คู่ แต่งกายในชุดสีแดงแบบจีน เข้าร่วมทำกิจกรรมถักเชือกสายใยรัก บริเวณอาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา (พาสาน) จ.นครสวรรค์ ก่อนลงแพข้ามฝั่งไปยังศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ทำพิธีแต่งงานแบบจีนโบราณ หรือไหว้ฟ้าดิน แล้วล่องแพออกมาตรงบริเวณแม่น้ำ 2 สี คือจุดตัดของแม่น้ำปิงกับแม่น้ำน่าน เพื่อจดทะเบียนสมรส มีนายทะเบียนอำเภอเมืองนครสวรรค์ และแขกผู้มีเกียรติเป็นสักขีพยานจำนวนมาก
ขณะที่จุดชมวิวทะเลหมอก สกายวอล์กอัยเยอร์เวง หมู่ 4 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอเบตง สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา เป็นประธานเปิดงานจดทะเบียนสมรส “เบตงที่รัก รักที่สุด ใต้สุดสยาม @ รักใต้ไอหมอก” ประจำปี 2565 คู่รัก 31 คู่ มีทั้งข้าราชการ คนในพื้นที่ บุคคลที่ราบสูง และชนเผ่าอัสรี แต่งกายด้วยชุดบ่าวสาวตามประเพณีของตัวเองเดินจูงมือผ่านซุ้มดอกไม้ ซุ้มลูกโป่ง เพื่อมารับช่อกุหลาบจากผู้ร่วมงาน มีนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง เป็นนายทะเบียน จดทะเบียนให้
อีกด้านหนึ่งที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขณะที่คู่บ่าวสาวกว่า 20 คู่ ทยอยเข้าจดทะเบียนสมรส เนื่องในวันแห่งความรัก น.ส.ภิรดา ธนโชติจินดา หรือแม่น้ำหนึ่ง อายุ 28 ปี เจ้าแม่ใบ้หวยชื่อดัง พร้อมนายรุ่ง เชื่อแอบราช อายุ 23 ปี สามี เดินทางด้วยรถเบนซ์ ให้นางอารีนา กายสิทธิ์ คนสนิท นำเอกสารหลักฐานขึ้นไปติดต่อขอจดทะเบียนหย่าตามที่ได้ประกาศไว้ พร้อมส่งลูกน้องผู้ชายกว่า 10 คน โดยห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพทำข่าว และส่งลูกน้องเป็นชายกว่า 10 คน นั่งเฝ้าหน้าประตูทางเข้าที่ทำการอำเภอ จนผู้สื่อข่าวถอยออกจากอำเภอ แม่น้ำหนึ่งกับสามีถึงเข้าไปเซ็นใบหย่ากับนายชยานนท์ สุวรรณทรัพย์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงาน บริหารงานปกครอง ที่ห้องฝ่ายทะเบียน เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น. โดยมีลูกน้องผู้ชายคอยกันที่หน้าห้องป้องกันการแอบถ่ายภาพด้วย
ส่วนที่สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าที่พันตรีชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ ร่วมกับนางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา ผู้แทนนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช เป็นประธานในพิธีจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ ประจำปี 2565 เริ่มจัดขบวนแห่ขันหมากอย่างยิ่งใหญ่ มีคู่สมรส 9 คู่แรกนั่งบนหลังช้างร่วมขบวน เข้าสู่สวนลอยฟ้า ก่อนที่คู่บ่าวสาวทั้ง 50 คู่ ร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง เช่นเดียวกับที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค อ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับวังช้างอยุธยา แล เพนียด และภาคเอกชนในพื้นที่ จัดกิจกรรม “Ayutthaya City Park The City of Love ที่นี่...มีแต่รัก” จดทะเบียนสมรสและพิธีมอบใบทะเบียนสมรสบนหลังช้าง 4 เชือก มีคู่รัก 13 คู่ร่วมจดทะเบียนสมรสอย่างชื่นมื่น
...
ขณะที่อาคาร CAT Tower ถนนเจริญกรุง กทม. สำนักงานเขตบางรักร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตบางรัก บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ และผู้ประกอบการเอกชนร่วม จัดงานจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ ภายใต้ชื่อ “รักวิถีใหม่ หัวใจติดปีก (Lover New Normal @Bangrak)” ที่จำกัดการจดทะเบียนสมรสเพียง 399 คู่ ที่ผ่านการจองคิว ออนไลน์ล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก คู่รักที่มาจดทะเบียนสมรส ส่วนใหญ่แต่งกายมาในชุดสีแดง และสีชมพู พร้อมกับแสดงผลการฉีดวัคซีน และผลตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคู่รักคู่แรกเดินทางมาตั้งแต่เวลา 05.00 น. คือนางสาววิรัญชนา สิงห์บุญมา อายุ 36 ปี ชาวเพชรบุรี และนายชลทิตย์ ชัยอำนาจ อายุ 32 ปี ชาวอุตรดิตถ์ ที่พบรักกันผ่านสื่อออนไลน์โดยฝ่ายชายทำงานอยู่ จ.ระยอง ส่วนฝ่ายหญิงทำงานใน กทม. หลังคบหามานาน 2 ปี จึงตั้งใจแต่งงานในปีนี้ และมาจดทะเบียนสมรสกับเขตบางรักเพราะเป็นความหมายดี เป็นสิริมงคล
ส่วนไฮไลต์ของการจดทะเบียนสมรสกับเขตบางรัก คือการลุ้นรับของรางวัลจากผู้สนับสนุนที่เริ่มจากทะเบียนสมรสทองคำบริสุทธิ์ 99.99% มีการแจก ชม.ละ 1 คู่ จำนวน 10 รางวัล และรางวัลพิเศษอื่นๆ แจกให้คู่สมรสถ้วนหน้า โดยคู่แรกที่ได้ทะเบียนสมรสทองคำ ได้แก่คู่นางสาวกนกวรรณ เมืองแพน ชาวสกลนคร อายุ 29 ปี ครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. กับ ส.ต.ท.ชัยรัตน์ ท้วมทอง สังกัด บช.ตชด. โดยทั้งคู่กล่าวว่ารู้จักกันผ่านสื่อออนไลน์ คบดูใจกัน 3 ปี ตั้งใจว่าจะมาจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรักอยู่แล้ว เพราะชื่อมีความหมาย และรู้สึกตื่นเต้นดีใจมากที่ได้รางวัลนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 10.40 น.กลุ่มภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม นำโดย น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง จัดกิจกรรมเป็นคนเท่ากัน “สมรสต้องเท่าเทียม” ด้วยการจัดขบวนรถตุ๊กๆ 5 คัน นำนาย พรหมศร วีระธรรมจารี แกนนำกลุ่มราษฎรมูเตลู ที่เป็นกลุ่มผู้ที่ความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ หรือ lesbian, gay, bisexual, transgender, queer) กับนายธีธัช ควรตระกูล แฟนหนุ่ม มาจดทะเบียนสมรส โดยไม่ได้จองคิวล่วงหน้า และภายหลังเจรจากับ จนท.สำนักงานเขตบางรัก นายพรหมศร พร้อมนายธีธัช คู่รัก ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสผ่าน นางภัสรา นทีทอง ผอ.เขตบางรัก และนายบรรเจิด แหลมศรี ผู้ช่วย ผอ.เขตบางรัก ที่บริเวณหน้าอาคาร ต่อมาสำนักเขตบางรักแจ้งให้นายพรหมศรและนายธีธัชทราบว่าไม่สามารถจดทะเบียนสมรสตามคำร้องได้ เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นชาย จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะจดทะเบียนสมรสได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่กำหนดให้ชายและหญิงเท่านั้นที่จะทำการสมรสได้ จากนั้นนายพรหมศร นายธีธัช และกลุ่มภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียมได้เคลื่อนขบวนรถตุ๊กๆไปแยกราชประสงค์เพื่อรณรงค์ “สมรสเท่าเทียมทั้งแผ่นดิน” ต่อไป
...
ขณะที่ศูนย์การค้า เดอะไบรท์ พระราม 2 เขตบางขุนเทียน จัดกิจกรรม “บางขุนเทียน แสงเทียนแห่งรัก” The Candle Of Love รับวันวาเลนไทน์เช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักไม่แพ้กัน และนอกจากคู่รักชายหญิงแล้วยังมีคู่รักกลุ่ม LGBTQ มารอจดทะเบียนสมรสและจดแจ้ง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้มาจดทะเบียนหรือจดแจ้งได้รับของรางวัลมากมายจากผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรม
ด้านนายพงษ์จักรินทร์ ถาวรพงษ์ ผอ.เขตบางขุนเทียน กล่าวว่า การบันทึกจดแจ้งของคู่รัก LGBTQ มีวัตถุประสงค์ให้เป็นพื้นที่กับ LGBTQ ระหว่างที่รอกฎหมายมีผลบังคับใช้ในอนาคต ได้แสดงหรือต้องการให้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเหมือนคนทั่วไป แต่ใบบันทึกจดแจ้งจะไม่มีผลบังคับทางกฎหมายที่ผูกพันใดๆ โดยทะเบียนนี้มีชื่อว่า “ใบรับการแจ้งชีวิตคู่” เป็นใบสำคัญว่าคู่รักเพศเดียวกันได้จดทะเบียนกันเพื่อให้สังคมได้รับรู้ แต่ท้ายใบทะเบียนจะมีเขียนไว้ว่า “เอกสารนี้มิได้มีผลให้เกิดสิทธิหน้าที่ หรือสถานภาพทางกฎหมายแต่อย่างใด” ซึ่งได้รับความสนใจจากคู่รักเพศเดียวกันเป็นอย่างมากและภายในงานมีการจับสลากมอบของรางวัลแก่คู่รักกันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
...
จากการสอบถามคู่รัก LGBTQ ที่มีทั้งคู่รักชายกับชายและหญิงกับหญิงที่มาจดทะเบียนในครั้งนี้ ต่างบอกเหมือนกันว่ารู้สึกดีใจ หลังรอมานาน และแม้ไม่มีสิทธิตามกฎหมาย แต่ใบทะเบียนนี้ก็มีคุณค่าทางด้านจิตใจ รวมถึงหาก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ก็พร้อมมาจดทะเบียนทันที อาทิ คู่นายยิ่งยศ หรือรถ ปลาทอง อายุ 32 ปี และนายอรรฐกานต์ หรือก๊อ กัญทรประโชติ อายุ 35 ปี คู่รักชายกับชาย เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่มีวันนี้ ถึงแม้ ทะเบียนนี้จะไม่มีสิทธิทางกฎหมาย เพียงแค่ให้สังคมได้รับรู้ก็เพียงพอแล้ว โดยขึ้นเครื่องบินมาจากเชียงใหม่มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ หลังเสร็จงานจะเดินทางกลับเชียงใหม่ทันที
ต่อมาที่ศาลาว่าการ กทม. นายเฉลิมพล โชติ นุชิต รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก 14 ก.พ.2565 ทั้ง 50 เขต มีผู้มาจดทะเบียนสมรส 2,264 คู่ จดทะเบียนหย่าใน 28 เขต 56 คู่ เขตที่มีคู่รักมาจดทะเบียนมากที่สุด อันดับแรก ได้แก่ เขตบางรัก 385 คู่ รองลงมา เขตบางขุนเทียน 162 คู่ เขตบางซื่อ 87 คู่ เขตบางแค 66 คู่ เขตลาดพร้าว 61 คู่ เขตมีนบุรี 59 คู่ เขตบางบอน 56 คู่ เขตสายไหม 55 คู่ เขตคลองสามวา 54 คู่ และเขตทวีวัฒนา 53 คู่ ส่วนเขตที่มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสน้อยที่สุดได้แก่ เขตธนบุรี 12 คู่ ตามด้วยเขตบางคอแหลม 14 คู่