ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ด้วยการให้หน่วยงานรัฐร่วมกันหามาตรการโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยนั้น นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลโดยได้ให้นโยบายด้านมาตรการที่สร้างความสะดวกทางการค้าและรักษาระดับความระมัดระวังสินค้านำเข้า ส่งออกที่เป็นของผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด

โดยนางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ และนางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ ผู้อำนวยการส่วน 1 เปิดเผยว่าจากข้อมูลของการท่าเรือแห่งประเทศไทยนั้น ท่าเรือกรุงเทพ ปีงบฯ 64 มีเรือเทียบท่า 4,170 เที่ยว มีตู้สินค้าผ่านท่า 1.438 ล้าน ที.อี.ยู. และคาดการณ์ปีงบฯ 65 จะมีตู้สินค้าผ่านท่าที่ท่าเรือกรุงเทพกว่า 1.43 ล้าน ที.อี.ยู เช่นกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ด้านนายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กล่าวว่า ศูนย์เอกซเรย์ฯ ซึ่งดูแลทั้งสินค้านำเข้า ส่งออก และผ่านแดน จึงได้จัดทำคู่มือสำหรับประชาชนฉบับออนไลน์ขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 แก่ประชาชนตามนโยบายรัฐบาลและกรมศุลกากร โดยสามารถติดตามได้ที่ https://bit.ly/3sLX2UG

นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “คู่มือสำหรับประชาชนดังกล่าวเป็นมาตรฐานการให้บริการของศูนย์เอกซเรย์ฯ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าเพิ่มขึ้นและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันในระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการศุลกากรทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาใช้บริการ เพื่อให้เกิดความถูกต้อง สะดวก รวดเร็ว สุจริต เป็นธรรมและโปร่งใสตามมาตรฐานสากลเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายพลิกโฉมประเทศของรัฐบาล”