รมว.ยุติธรรม นั่งหัวโต๊ะถก "พาลีปราบยา" หารือข้อมูลทางการเงินธนาคาร เล็งทำข้อมูลฐานกลาง หวังช่วยงานปราบยาเสพติดสะดวกขึ้น ชี้ต้องปรับตัวตามเทคโนโลยีให้ทันพ่อค้ายา ขอทุกคนทำงานเต็มที่ เชื่อเรามาถูกทางแล้ว

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานปราบปรามยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ภายใต้ปฏิบัติการ พาลีปราบยา โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบ.ตำรวจปราบยาเสพติด 3 นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ คดียาเสพติด นายวรุณ กาญจนภู ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการประสานขอข้อมูลในชั้นสืบสวน เพื่อใช้ในการพิสูจน์องค์ประกอบของความผิดและพิสูจน์ข้อสงสัยตามข้อสันนิษฐาน เช่น ข้อมูลคำขอเปิดบัญชีหรือข้อมูลการสมัครใช้บริการแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่านโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลรายการทางบัญชีธนาคารหรือสเตทเมนต์ ข้อมูลรายงานการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กล้องวงจรปิดในธนาคารและหน้าตู้เอทีเอ็ม สลิปการทำรายการทางการเงิน และข้อมูลซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น หุ้น ประกันชีวิต 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรอบเวลาการประสานข้อมูล ความต่อเนื่องในการขอพยานหลักฐาน ช่องทางและศูนย์กลางการประสานข้อมูล และปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากการประสานข้อมูล เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในการยึดทรัพย์ได้มากถึง 7,300 ล้านบาท ธนาคารและสถาบันทางการเงินให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังมีอุปสรรคในการขอข้อมูลไปยังธนาคาร เพราะบางครั้งมีการขอข้อมูลที่ซ้ำซ้อน ทำให้ภาระตกไปยังธนาคารในการส่งข้อมูลมาให้และอาจจะเกิดความล่าช้า เราจึงควรมีการทำคลังข้อมูลเตรียมพร้อมเอาไว้เป็นฐานข้อมูลเดียว เมื่อมีการขอข้อมูลจากธนาคารแล้วก็นำมารวบรวมเก็บไว้ หากเป็นข้อมูลที่เราเคยขอธนาคารไปแล้ว ก็จะได้นำมาใช้ได้ทันที เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและอาจจะได้ข้อมูลที่มีความสอดคล้อง และเชื่อมโยงกับกรณีอื่นได้อีกด้วย ตนจึงอยากให้ทำตรงนี้ขึ้นมา หากยังติดขัดตรงไหนขอให้ปรึกษาหารือร่วมกันดู

...

"คณะทำงานพาลีปราบยาเป็นคณะกรรมการนำร่อง หากมีอะไรติดขัดก็จะนำเข้าไปหารือในที่ประชุม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ เพื่อหาทางแก้ไขในภาพใหญ่ ไม่เช่นนั้นเราไปไม่ถึงฝั่งฝันได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง การนำร่องตรงนี้จะนำร่องทั้งประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่และงานต่างๆ ทำให้เท่าทันพวกค้ายารวมถึงการพัฒนาช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สนับสนุนให้หน่วยงานส่งข้อมูลทางช่องนี้ เพราะปลอดภัยและสะดวกรวดเร็ว ผมหวังว่าการทำงานของคณะทำงานพาลีปราบยา จะปรับคนในแต่ละชุดให้เกิดความเหมาะสม ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถ้าเราทำงานเต็มที่ ยาเสพติดจะหมดไปได้ เพราะผู้ค้ายาถูกเราตั้งรางวัลชี้เบาะแส ผมคิดว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้ว ช่วยกันทำให้งานของเราออกมาชัดเจน ทุกอย่างจะเดินไปอย่างเรียบร้อย เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคม" นายสมศักดิ์ กล่าว