ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่หนักหนาที่สุดของเราทุกคน โควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเรามหาศาล แต่พร้อมกันนั้นก็ได้ทำให้เราได้เห็นพลังแห่งความร่วมมือครั้งใหญ่ของชาติ ที่หลากหลายหน่วยงานต่างระดมทุกสรรพกำลังมุ่งมั่นประคับประคองกันและกันให้ยังยืนอยู่ไหว

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ บทบาทขององค์กรเอกชนต่างๆ ที่ต่างทุ่มเททรัพยากรที่มีเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มความสามารถ สะท้อนถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจยุคใหม่การ “ให้ใจ” กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคือสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่าการเติบโตทางผลกำไร และหนึ่งในองค์กรที่เดินหน้าในภารกิจเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนมาโดยตลอดก็คือทางด้านของ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจี (BG) บริษัทที่เราอาจคุ้นเคยกันในบทบาทการเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แต่นอกเหนือไปจากชื่อเสียงในสังเวียนแข้ง ที่แห่งนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อสังคมเสมอมากว่า 40 ปี

บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) มีหัวเรือใหญ่คือ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตแก้วและบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่อยู่คู่ประเทศไทยมากว่า 4 ทศวรรษ และได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และด้วยวิสัยทัศน์ขององค์กรที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ บีจีจึงเดินหน้าขยายและต่อยอดธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ภายใต้การบริหารของบริษัทในเครือ อาทิ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจอะลูมิเนียม ธุรกิจกีฬา เป็นต้น เพื่อรองรับการเติบโตตามเป้าหมาย

ไม่เพียงการเดินหน้าในแง่มุมธุรกิจเท่านั้น อีกหนึ่งบทบาทที่บีจี และบริษัทในเครือให้ความสำคัญไปพร้อมกันก็คือการมุ่งมั่นมีส่วนร่วมกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จะสามารถเติบโตเคียงข้างบีจีได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอบปีที่ผ่านมาที่เราต่างต้องเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤติโควิด-19 บีจีเองก็ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ Helping Hands For Heroes เป็นโครงการที่เข้าสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรง กับการส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพใช้อย่างเพียงพอสำหรับดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที โดยภายในปี 2561 บีจีได้สนับสนุนโรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 13 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 12,391,647 บาท ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลลำลูกกา โรงพยาบาลธัญบุรี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศูนย์พักคอยมูลนิธิมาดามแป้ง

นอกจากนี้ยังร่วมผลิตและส่งมอบเตียงกระดาษให้แก่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปราจีนบุรี ขอนแก่น และราชบุรี

อีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่เกิดจากความตั้งใจช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่ขาดรายได้และผู้ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คือโครงการ Helping Hands For Thai โดยบีจีได้ดำเนินการส่งมอบถุงยังชีพรวมถึงของใช้อุปโภค บริโภค ให้แก่หน่วยงานที่ดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 8 แห่ง มูลค่ารวม 5,438,303 บาท ได้แก่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิรักษ์ไทย มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า และบ้านเด็กธรรมรักษ์

จากบทบาทดังกล่าวของบีจี เป็นการตอกย้ำได้อย่างดีถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรยุคใหม่ที่การแสวงหากำไรเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบของการอยู่รอดอย่างยั่งยืน และสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อประคับประคองและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง เมื่อทุกฝ่ายมีกำลังที่จะยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ผลลัพธ์ที่ดีก็ย่อมจะสะท้อนกลับสู่องค์กรเช่นเดียวกัน