น่าเห็นใจบรรดาผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานบันเทิงทั้งหลายที่ต้องฝันค้าง ที่ประชุม ศบค.วันศุกร์ที่แล้วไม่ให้ความเห็นชอบข้อเรียกร้องขอให้ร่นเวลาการเปิดให้บริการเร็วขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค. โดยไม่ต้องรอถึงวันที่ 15 ม.ค.65 เพราะ ศบค.เกรงจะเป็นแหล่งแพร่ระบาดเชื้อโควิด อาจเกิดคลัสเตอร์กระจายทั่วประเทศ

สถานบันเทิงมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องการถ่ายเทอากาศ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องถอดแมสก์ การครองสติขณะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งยังพูดเสียงดังละอองน้ำลายฟุ้งกระจาย และระยะเวลาที่อยู่ในสถานบันเทิงก็ค่อนข้างนาน

ผมเห็นด้วยที่ ศบค.ยังไม่รีบร้อนผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิง เราเคยมีคลัสเตอร์ใหญ่จากสถานบันเทิงมาแล้ว แค่คลัสเตอร์ 2 แห่งก็ทำเอาคนเดือดร้อนไปทั่ว ลองคิดดูครับถ้ามีคลัสเตอร์สถานบันเทิงพร้อมกันสิบแห่งร้อยแห่ง จะโกลาหลขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและคนทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงให้เร็วที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่เดือดร้อนมายาวนานกว่าใคร

ตอนนี้ธุรกิจภาคส่วนอื่นทยอยเปิดกิจการเต็มรูปแบบแล้ว ร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ประชาชนก็สวมแมสก์ ล้างมือ การ์ดไม่ตก อาจจะมีย่อหย่อนบ้างในด้านการเว้นระยะห่าง แต่โดยภาพรวมถือว่าทุกคนทุกฝ่ายพร้อมใจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

อีกแค่เดือนเดียวจะได้ฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุขกันแล้ว อาจจะไม่ได้สนุกสุดเหวี่ยงเหมือนยุคก่อนโควิด แต่ก็จะสนุกเต็มที่ในรูปแบบนิวนอร์มอล ทั้งภาครัฐและเอกชนตระเตรียมกิจกรรมรูปแบบต่างๆไว้พร้อมสรรพ ถ้างานฉลองปีใหม่ผ่านไปด้วยดีจะเป็นแรงใจก้าวสู่ศักราชใหม่ที่สดใสกระชุ่มกระชวย

ระหว่างนี้ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดต่อไป ก่อนถึงปีใหม่อย่าให้มีการระบาดเวฟใหม่ขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นกิจกรรมที่วางแผนไว้ก็ต้องล้มพับทั้งหมด ความหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจสูญสลาย ต้องถอยหลังไปตั้งต้นใหม่

...

หรือแม้หลังปีใหม่แล้วก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะหากฉลองปีใหม่กันเพลินจนการ์ดตก ถ้าโชคร้ายมีคลัสเตอร์ระบาดไปทั่วอาจต้องมีการล็อกดาวน์กันอีกครั้ง ซึ่งต้องรอดูว่าตัวเลขหลังพ้นปีใหม่ไปแล้ว 14 วันจะเป็นอย่างไร

อันที่จริงสถานการณ์ตอนนี้ที่ยังมีผู้ติดเชื้อ 5-7 พันคนต่อวัน ถือว่าไม่ค่อยดีนัก เพียงแต่เราอาจรู้สึกชินกับตัวเลขนี้ บวกกับความรู้สึกอยากเดินหน้าเศรษฐกิจปากท้อง ทำให้มองข้ามพิษภัยโควิดที่คุกคามเราอยู่ตลอด หนำซ้ำ เชื้อกลายพันธุ์ B.1.1.529 ที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง อาจก่อวิกฤติครั้งใหม่ขึ้นได้ เพราะเชื้อกลายพันธุ์นี้ติดง่าย แพร่เร็ว และดื้อวัคซีน

นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. เผยว่า ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ไม่ได้ถือว่าลดลง ตัวเลขทรงอยู่ที่ 5-7 พันคนมา 2-3 สัปดาห์แล้ว แสดงว่าไม่ดี ถ้าดีทำไมตัวเลขไม่ลงไปเรื่อยๆ ยิ่งไปดูต่างประเทศตอนนี้ขึ้นมาก ไม่มีทางที่เขาขึ้นแล้วไทยจะไม่ขึ้น อย่างแอฟริกาที่มีเชื้อกลายพันธุ์ แป๊บเดียวมาที่ฮ่องกงแล้ว

นพ.อุดมกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ของไทยตามหลังยุโรป 2-3 เดือนทุกที ยุโรปใช้วัคซีนที่ดีครอบคลุมร้อยละ 70-80 ก็ยังกลับมาแย่ ในยุโรปพอฉีดวัคซีนแล้วไม่ใส่หน้ากากอนามัย สิ่งที่อยากเตือนคือพอเราได้ฉีดวัคซีนแล้วเริ่มสบายใจ ลั้นลากัน ทัศนคติตรงนี้ต้องช่วยกันปรับ

ผมขอฝากทุกท่านช่วยอดทนกันอีกนิดนะครับ ถ้าผ่านพ้นปีใหม่ได้ด้วยดี ปีหน้าจะได้ยิ้มรับฟ้าเปิดครับ.

ลมกรด