นายกฯ พร้อมด้วย มท.1 นำคณะผู้บริหารระดับสูงสวมเสื้อ "ลมหายใจกระบี่" ประชุม กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และประชุมคณะ ครม. นอกสถานที่ ณ จังหวัดกระบี่ พร้อมอนุมัติงบประมาณ 494 ล้านบาท ขับเคลื่อน 7 โครงการเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
วันนี้ (16 พ.ย. 64) เวลา 08:00 น. ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรี ร่วมสวมเสื้อลายปาเต๊ะ “ลมหายใจกระบี่” ซึ่งจังหวัดกระบี่จัดทำขึ้น โดยการออกแบบของ นายพัฒนศิลป์ ชูทอง ศิลปินอิสระชาวจังหวัดกระบี่ ใช้แนวคิดวิถีชีวิตของคนกระบี่ผูกพันกับวิถีเกษตรกรรม วิถีการทำประมง และธรรมชาติที่งดงาม เป็นจุดหมายปลายทางของความสุขให้กับผู้มาเยือน โดยลายเส้นโค้ง เปรียบเสมือนสภาพภูมิประเทศของจังหวัดกระบี่ที่เป็นเทือกเขาและเปรียบเสมือนลักษณะของเกลียวคลื่นในท้องทะเล ลายเรือหัวโทง เปรียบเสมือนวิถีชีวิตที่ผูกพันกับทะเล และสัญลักษณ์การท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดกระบี่ ลายทางปาล์ม เปรียบเสมือนวิถีชีวิตของเกษตรกร ซึ่งปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดกระบี่ ลายหอย เปรียบเสมือนร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดกระบี่ และแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล โดยใช้วิธีการผลิตแบบผ้าปาเต๊ะด้วยวิธีการพิมพ์ลายผ้าด้วยระบบดิจิทัล โดยใช้ผ้าคอตตอนหรือผ้าซาติน
โดยเมื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาถึงสถานที่ประชุม ได้ตรวจเยี่ยมการจัดแสดงนิทรรศการและการออกร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดกระบี่ ซึ่งได้นำเสนอสุดยอดผลิตภัณฑ์เมืองกระบี่ 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) ผ้าบาติกโบราณ โดยจัดแสดงวิธีการเขียนภาพโบราณแบบกระบี่ลงบนผ้า เช่น ลายทะเล ลายดอกดาหลา ลายดอกเหลืองกระบี่ เป็นต้น รวมถึงลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ 2) ผลิตภัณฑ์จักสานจากใบเตย แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋า หมวก กระเป๋าสตางค์ ซองใส่โทรศัพท์ 3) ผลิตภัณฑ์จักสานทางปาล์ม โดยนำปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดกระบี่ที่ถูกปล่อยทิ้งแล้ว มาแปรรูปสานเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ตะกร้า กระเป๋า ชะลอม ไม้กวาด ที่ใส่แก้วกาแฟ ถังขยะ โคมไฟ กระถางต้นไม้ ได้หลากหลายรูปแบบ ตามรสนิยมและสไตล์ของผู้ซื้อ 4) กาแฟ GI ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟพื้นเมืองกระบี่ ผลิตเป็นกาแฟยี่ห้อต่างๆ เช่น กาแฟกระบี่ คลองท่อมคอฟฟี่ กาแฟลำทับ และกาแฟชะมดลำทับ และ 5) ผลิตภัณฑ์สาหร่ายขนนก ที่เกิดจากการศึกษาวิจัยเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยการนำสาหร่ายมาเลี้ยงในน้ำเค็มที่มีความเค็มตั้งแต่ 25-30 ppm ที่ผ่านการฆ่าเชื้อ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บผลผลิตมาจำหน่ายได้ โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการ ในการประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากงานวิจัยและองค์ความรู้ทางวิชาการในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และได้ชื่นชมผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะ "กาแฟพื้นเมืองกระบี่" ที่มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากกาแฟทั่วไป
จากนั้น ในเวลา 09:00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้บันทึกภาพร่วมกับคณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล ผู้แทนภาคเอกชน ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้นำเสนอโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ รองรับการท่องเที่ยวนานาชาติ จังหวัดสตูล โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์พื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อม จังหวัดระนอง โครงการ Phuket Health Sandbox จังหวัดภูเก็ต โครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา จังหวัดพังงา โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร-ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด รองรับการเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาค และเท่าเทียมตามมาตรฐาน (Friendly Design) จังหวัดกระบี่ และโครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จังหวัดกระบี่
นอกจากนี้ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้นำเสนอต่อที่ประชุมในการขอรับการสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนากลุ่มจังหวัด ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีข้อเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันในการขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านที่ 1 การเยียวยาฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้แก่ ANDAMAN ECONOMIC TOURISM (เขตเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวอันดามัน) ANDAMAN GO GREEN และการเสนอเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ.2568) ด้านที่ 2 การท่องเที่ยว ได้แก่ การยกระดับและพัฒนาศักยภาพศูนย์สั่งการและระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่อยวกลุ่มจังหวัดอันดามัน การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ Khaolak Surf Town การพัฒนาและฟื้นฟูศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์พื้นที่ อุทยานพระนารายณ์เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมอันดามัน การพัฒนาสนามกีฬาเทศบาลนครตรังสู่มาตรฐานสากล การปรับปรุงภูมิทัศน์คลองพังงา และการพัฒนาอุตสาหกรรมมารีน่า ด้านที่ 3 การเกษตร ได้แก่ การพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งระบบแบบยั่งยืน และการพัฒนาการประมงในอ่าวพังงาอย่างยั่งยืน (2566-2570) (Andaman Sustainable Fisheries Development Project, 2023-2027) การส่งเสริมการเลี้ยงแพะและแปรรูปผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรตามมาตรฐานอาหารฮาลาล ด้านที่ 4 คุณภาพชีวิต ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพบริการทางการแพทย์และการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดพังงา และการพัฒนาขยายพื้นที่ให้การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลระนอง และด้านที่ 5 โครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โครงการยกระดับศูนย์วิจัยและบริการวิชาการภูมิภาคอันดามัน การศึกษาระบบเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ระบบราง และอากาศ (Multimodal Transportation) การศึกษาโครงข่ายคมนาคมแก้ไขปัญหาจราจรในเขตเมืองและสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพประเภทเกาะในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน การก่อสร้างระบบเคเบิ้ลใต้ดิน พื้นที่เขตอนุรักษ์ย่านการค้าเมืองเก่า จังหวัดภูเก็ต การปรับปรุงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระนอง การก่อสร้างขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเล การยกระดับสนามบินนานาชาติกระบี่เป็น Cargo Hub และการก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา RO. เกาะพีพี อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 494 ล้านบาท ในการขับเคลื่อน 7 โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ทุกกลุ่มจังหวัดอีก 17 กลุ่มจังหวัด จัดประชุมร่วมกับภาคเอกชนและท้องถิ่น นำเสนอแผนงาน/โครงการที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ.2555 เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้ศึกษาหาแนวทางในการผลักดันขับเคลื่อนเช่นเดียวกับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันที่ได้รับความเห็นชอบในวันนี้ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะได้ดำเนินการรวบรวม และนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป