"เศรษฐพงค์" หนุนแก้ไขหลักเกณฑ์ใบอนุญาต ใช้ดาวเทียมต่างชาติบริการอินเทอร์เน็ต แนะพิจารณาบนประโยชน์ของชาติและความมั่นคง
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.64 พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรรมาธิการฯได้มีการประชุมพิจารณา เรื่องประกาศของสำนักงานคณะคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติในการให้บริการในประเทศ ซึ่งทาง กสทช. ชี้แจงว่า สิทธิที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ ประกอบด้วย 1.กรณีดาวเทียมวงโคจรประจำที่ (Geostationary–Satellite Orbit: GSO) สิทธิที่ผู้รับอนุญาตให้ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติแต่ละสิทธิ เป็นการอนุญาตหนึ่งสิทธิต่อการเป็นตัวแทนผู้ประกอบการดาวเทียมต่างชาติแต่ละดวง โดยผู้รับอนุญาตสามารถขอรับอนุญาตเพื่อเป็นตัวแทนผู้ประกอบการดาวเทียมต่างชาติได้หลายดวง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการดาวเทียมต่างชาติสามารถมีตัวแทนในประเทศไทย ได้หลายรายเช่นกัน 2.กรณีดาวเทียมวงโคจรไม่ประจาที่ (Non-Geostationary-Satellite Orbit: NGSO) ให้การอนุญาตหนึ่งสิทธิต่อการเป็นตัวแทนผู้ประกอบการดาวเทียมต่างชาติหนึ่งสิทธิต่อระบบ
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า กสทช.ชี้แจงอีกว่า การพิจารณาปรับแก้ เนื่องจากมีความต้องการใช้งานและการให้บริการรูปแบบและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำ LEO โดยผู้ขอรับอนุญาตจะต้องมีคุณสมบัติ เช่น เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยโดยมีสถานประกอบการในประเทศไทย เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการดาวเทียมต่างชาติที่มีคุณสมบัติสอดคล้องตามนโยบายที่รัฐกำหนด ประเทศไทยอาจตั้งเงื่อนไขการเข้าสู่ตลาดของดาวเทียมต่างชาติด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง การอนุญาตให้ใช้ดาวเทียมต่างชาติในการให้บริการในประเทศ ผู้ประกอบกิจการดาวเทียมไทยที่ประสงค์จะใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมของรัฐเจ้าของดาวเทียมที่เป็นสมาชิก WTO รวมถึงผู้ประกอบกิจการดาวเทียมต่างชาติของรัฐเจ้าของดาวเทียมที่เป็นสมาชิก WTO และหลังบังคับใช้ 3 ปี ให้ประเมินผลกระทบเพื่อปรับปรุงนโยบายการพิจารณาอนุญาตฯ
...
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า กรรมาธิการฯเห็นว่า การพิจารณาการออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องมีการพิจารณาผลกระทบฯ หลังจากนี้ในข้อดีก็จะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้น แต่จะต้องมีการรักษาสมดุลต่อความมั่นคง และผู้ประกอบการที่ให้บริการอย่างเดียวกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น การให้บริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม LEO ที่ไม่มีต้นทุนค่าความถี่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการบรอดแบนด์ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ได้มีการจ่ายเงินค่าประมูลความถี่เป็นมูลค่าที่สูงมาก การพิจารณาการออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เนื่องจากโครงข่ายโทรคมนาคม ถือว่าเป็นโครงข่ายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ทาง กสทช.จะมีแนวทางกำกับดูแลเรื่องนี้กับทาง สกมช.อย่างไร หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่อาจต้องคำนึงถึงแนวทางกำกับดูแลในการส่งข้อมูล ส่วนบุคคลข้ามขอบเขตประเทศไทย แนวทางเรื่องนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรระหว่าง กสทช. และหน่วยงานกำกับดูแล
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวอีกว่า การพิจารณาการออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ ต้องพิจารณาว่าการอนุญาตเป็นการอนุญาตดาวเทียมแต่ละดวง หรือแต่ละกลุ่มดาวเทียม ไม่ควรให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการฯแล้วปล่อยให้สามารถใช้ดาวเทียมต่างชาติรายใดๆโดยไม่มีข้อจำกัด ซึ่งสำนักงาน กสทช.กำลังพิจารณาทำประกาศฉบับนี้อยู่ โดยการให้ใบอนุญาตครั้งนี้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคมครั้งใหญ่ ซึ่งมีผลกระทบต่อโอเปอร์เรเตอร์ทุกราย ดังนั้นการพิจารณาให้ใบอนุญาตเป็นสิ่งที่เราควรสนับสนุน เพื่อให้การบริการแก่ประชาชนในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัล แต่เราจะต้องพิจารณาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และคำนึงถึงด้านความมั่นคงของชาติด้วย