นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทน ผอ.องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เผยว่า ตามที่ อ.ส.ค.มีแผนจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์และศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบน ที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อรองรับปริมาณน้ำนมดิบในโซนพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่ได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงาน แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการ และอยู่ในขั้นตอนเสนองบประมาณในการก่อสร้าง
“อ.ส.ค. จึงมีแนวคิดที่จะใช้ประโยชน์ในที่ดินโครงการดังกล่าวบนพื้นที่จำนวน 150 ไร่ แบ่งเป็นแปลงหญ้ารูซี่ 100 ไร่ และแปลงหญ้าแพงโกล่า 50 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารสัตว์ให้เกษตรกรในพื้น จ.ลำปาง และใกล้เคียง เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรและสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่นำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ป้อนอุตสาหกรรมโคนม ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับ อ.ส.ค. พร้อมกับสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี อีกทางหนึ่งด้วย โดยเฉพาะสหกรณ์โคนมในเครือข่าย อ.ส.ค.ที่ปัจจุบันในพื้นที่มีอยู่ด้วยกัน 9 แห่ง”
...
สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์ และศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบน นายสุชาติ บอกว่า หากดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมนมในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนแบบครบวงจร เนื่องจากช่วยรองรับปริมาณน้ำนมดิบ และเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรโคนมในเขตภาคเหนือ ตลอดจนส่งเสริมกลุ่มสหกรณ์โคนม กลุ่มเกษตรกรโคนม ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากการจัดตั้งโรงงาน
นอกจากนั้น ศูนย์การเรียนรู้กิจการโคนมจะให้ประโยชน์แก่เกษตรกรแบบครบวงจร ที่ประกอบไปด้วยศูนย์ Feed Center แหล่งสนับสนุนอาหารโคนมต้นทุนต่ำ ศูนย์เลี้ยงโคนมทดแทน เพื่อแบ่งเบาภาระของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทดแทน มาเลี้ยงยังศูนย์แทน นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างให้คนรุ่นใหม่สานต่ออาชีพเลี้ยงโคนมของครอบครัว และ Smart Farm อีกด้วย
ทั้งนี้ การใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการ เนื้อที่ 75-3-35 ไร่ เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทาง และรูปแบบโครงการจัดตั้งโรงงานปรรูปผลิตภัณฑ์นมและศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรภาคเหนือตอนบน ที่มีข้อเสนอแนะให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ โดยช่วงแรกเป็นการบุกเบิกพื้นที่ เพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์ เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำปาง
นอกจากเกษตรมีรายได้จากการปลูกพืชอาหารสัตว์แล้ว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ในช่วงหน้าแล้ง และมีแนวคิดที่จะรับซื้อเมล็ด/ท่อนพันธุ์หญ้าจากชมรมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์แห่งประเทศไทย และรับซื้อปุ๋ยมูลโคจากชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือตอนบน เพื่อเป็นการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน (SME) อีกด้วย.