ช่วงนี้เราได้ยิน คำพูดแปลกๆ ศัพท์แปลกๆ จากรัฐบาล เช่น Smart Control and Living with COVID-19 การควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด-19 Universal Prevention การป้องกันแบบครอบจักรวาล รัฐบาลบอกว่า เป็นมาตรฐานการใช้ชีวิตใหม่ หรือ การใช้ชีวิตวิถีใหม่ของคนไทย หลังจากที่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผอ.ศบค.ไฟเขียวตามข้อเสนอกระทรวงสาธารณสุข ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ 50% ทั่วประเทศ และ ให้คนไทยป้องกันตัวเอง เพื่ออยู่ร่วมกับโควิด-19 ต่อไปให้ได้ ทั้งที่ ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เพียง 7,780,973 คน (ข้อมูล 30 ส.ค.) จากประชากรไทย 70 ล้านคน

ผมไม่รู้ว่าจะรอดหมู่หรือตายหมู่ เพราะ มาตรฐานสากล การเปิดประเทศเสรี ต้องมีการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสให้ประชากรอย่างน้อย 70% แล้วเท่านั้น

เมื่อวันอาทิตย์ ออง เย คุง รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ โพสต์ลงเฟซบุ๊กประกาศว่า สิงคโปร์ได้ก้าวข้ามหมุดหมายสำคัญอีกอย่างแล้ว นั่นคือ ประชาชนสิงคโปร์ 80% ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว หมายความว่า สิงคโปร์ได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นในการทำให้ประชาชนของเราสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับโควิด–19 ได้ดียิ่งขึ้น เราจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ และ วิถีชีวิตของพวกเราจะได้รับการปกป้องมากขึ้น วิถีชีวิตแบบ new normal ของชาวสิงคโปร์ ประชาชนจะสามารถรวมตัวกันเคาต์ดาวน์นับถอยหลังสู่วันขึ้นปีใหม่ ภาคธุรกิจสามารถเปิดดำเนินกิจการได้อย่างไม่สะดุด ชาวสิงคโปร์จะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างแดน ในกลุ่มประเทศที่ควบคุมการระบาดโควิดได้ดีเช่นกัน เราจะยอมรับใบรับรองการฉีดวัคซีนของกันและกัน

สิงคโปร์มีประชากร 5.7 ล้านคน ได้รับการยกย่องว่า รับมือกับโควิด-19 ได้ดีที่สุดในโลก จนถึงวันจันทร์ (30 ส.ค.) สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อสะสม 67,459 ราย เสียชีวิต 55 ราย 

...

ไทยมีประชากร 70 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1.2 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 1 หมื่นคน ติดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 29 ของโลก นับถึงจันทร์ 30 ส.ค. เพิ่งฉีดวัคซีนได้ 31.77 ล้านโดส เข็มที่ 1 จำนวน 23.40 ล้านคน เข็มที่ 2 จำนวน 7.78 ล้านคน ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสไปแค่ 11% แล้วรัฐบาลจะให้คนไทยทั้งประเทศใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 ไปตามยถากรรมตั้งแต่วันนี้หรือ มันไม่ใจร้ายใจดำไปหน่อยหรือครับท่านนายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า ศบค. ได้เห็นชอบแผนการที่เรียกว่า Smart Control and Living with COVID-19 หรือ การควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด–19 เพื่ออยู่ร่วมกับโควิดให้ได้อย่างปลอดภัยและสมดุล โดยมีมาตรการ 10 ข้อ หนึ่งในนั้นคือ มาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) การระมัดระวังตัวสูงสุด โดยคิดเสมือนว่าทุกคนที่พบปะนั้นมีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น

ถ้าต้องคิดแบบนั้น ก็เหมือน “คนบ้า” แล้ว ผมขอคิดอย่างมีเหตุผลแบบสิงคโปร์ดีกว่า เห็นวิธีคิดของ ลี เซียนลุง ผู้นำสิงคโปร์แล้ว ก็ไม่แปลกใจที่ประเทศเล็กๆอย่างสิงคโปร์ สามารถสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศเหนือกว่าไทย ทั้งในเวทีผู้นำโลก และ เวทีการเมืองการค้าระหว่างประเทศ

ยิ่งช้ำใจเมื่อ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสำทับ การใช้ชีวิตวิถีใหม่ (ของคนไทย) ตั้งแต่ 1 กันยายนนี้ ต้องปรับตัวให้อยู่กับเชื้อโรคดังกล่าว (โควิด-19) ให้เหมือนกับไข้หวัดใหญ่หรือวัณโรค ไม่รู้หมอคิดด้วยตรรกะอะไร เราอยู่กับไข้หวัดใหญ่ได้เพราะมีวัคซีนฉีดป้องกันทุกปี มียารักษาซื้อได้ทั่วไป แต่ โควิด-19 รัฐบาลผูกขาดทั้งวัคซีนและยา ประชาชนไม่สามารถซื้อวัคซีนและยามาป้องกันรักษาตัวเองได้ ทำแบบนี้เหมือนฆ่ากันทางอ้อมเลย

รีบๆ เอาเงินภาษีของเราไปซื้อวัคซีนดีๆมาฉีดให้ครบ 70 ล้านคนเถอะ ชีวิตวิถีใหม่ของคนไทย มันต้องปลอดภัยและมีความสุขเหมือนสิงคโปร์ ไม่ใช่เสี่ยงภัยอย่างไร้อนาคต มองทุกคนเป็นผู้ติดเชื้อเหมือนคนบ้า เผลอๆคนที่คิดแบบนี้อาจจะบ้าไปเสียก่อน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”