โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เผยบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 100% แล้ว หลังเผชิญปัญหาวัคซีนขาดไป 40%

แฟนเพจ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความว่า วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ 121 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ และวันที่ 60 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต

วันนี้ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ของทั้งประเทศยังคงอยู่ที่ 19,603 คน เกือบ 2 หมื่นเหมือนเดิม และมีผู้เสียชีวิตอีก 149 คน ในจำนวนนั้นมีหนึ่งคนที่เป็นผู้ป่วยโควิดที่เสียชีวิตที่ รพ.ธรรมศาสตร์

ผู้ป่วยที่เราจะต้องรับแอดมิตใหม่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ จากผลการตรวจ Swab ที่รายงานเช้าวันนี้คือ 32 คน จากจำนวน Swab 98 ราย หรือเท่ากับ 1 ใน 3 ของกลุ่มเสี่ยงที่มารับการตรวจ และในจำนวนนี้เป็นบุคลากรของ รพ.ธรรมศาสตร์ เองที่กลายเป็นผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 2 คน

ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ ที่ยิม 4 วันนี้เราฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ให้กับผู้ที่มีคิวจองไปได้อีก 1,985 คน ในวันที่ 60 ของการทำงานให้บริการประชาชนที่นี่ เราอยากจะบอกอีกครั้งด้วยว่า งานเปิดศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์นี้ เป็นงานบริการสังคมของมหาวิทยาลัยและของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์โดยแท้ เพราะเราใช้ทรัพยากรของพวกเราทั้งหมดในการให้บริการ นับตั้งแต่อาคารสถานที่ สาธารณูปโภค บุคลากร และอาสาสมัคร มีแต่เพียงวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่ต้องขอรับจากรัฐบาลและ สธ.มาฉีดให้ประชาชนเท่านั้น ที่เราไม่ได้เป็นผู้จัดซื้อมา

นอกเหนือจากนั้นเป็นความเสียสละและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากร มธ.และอาสาสมัครที่อยากจะช่วยเหลือสังคมทั้งสิ้น และเฉพาะค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าสถานที่ การทำความสะอาดดูแล และค่าสาธารณูปโภคที่ต้องจ่าย ก็มีมากถึงกว่า 1 แสนบาทต่อวันอยู่แล้ว โดยไม่รวมค่าอาหารและค่ายา เวชภัณฑ์ การดูแลผู้รับวัคซีน และการให้บริการที่เกี่ยวข้อง

...

เมื่อฉีดไปครบ 60 วัน จนถึงวันนี้ ก็คือรายจ่ายมากกว่า 6 ล้านบาทของเรา ที่จ่ายไปจากงบของธรรมศาสตร์เอง โดยไม่ได้ขอรับงบประมาณหรือการสนับสนุนใดจากรัฐ แต่เป็นการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนด้วยกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือภารกิจหลักในเรื่องการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยของ รพ.ธรรมศาสตร์ เราทำอย่างนี้มา และเรียกร้องขอรับวัคซีนจากรัฐมาฉีดให้ผู้คนเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะพวกเราเชื่อว่า เป็นหน้าที่อีกอย่างหนึ่งที่พวกเราจะต้องทำให้กับประชาชน เท่าที่ธรรมศาสตร์จะทำให้ได้ และโดยรู้สึกว่า ตัวงานที่ทำอยู่มันช่วยให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัย มีภูมิต้านทานและไม่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น จริงๆ เราก็อยากจะทำไปให้ตลอดจนถึงอีก 600 วันติดต่อกันด้วยซ้ำถ้าพวกเราชาวไทยยังคงถูกคุกคามอยู่จากโรคร้ายนี้ และพวกเรายังพอจะเป็นประโยชน์และเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยแก้ปัญหานี้ให้ได้

ถึงตอนนี้ เรายังคงรับจองคิวลงทะเบียนฉีดวัคซีนในแอป TUH อยู่ด้วยนะ เลขลำดับการจองขณะนี้ไปถึงคิวที่ 360,000 แล้ว แต่ไม่ต้องตกใจนะ ขณะนี้ เราลงนัดหมายสำหรับผู้ที่จองไว้ไปได้จนถึงคิวลำดับที่ 180,000 แล้ว จนถึงวันสิ้นเดือนสิงหาคม และพอปลายเดือนสิงหาคมเราก็จะเริ่มลงคิวนัดของเดือนกันยายน ซึ่งเชื่อว่าทั้งเดือนจะได้อีกประมาณ 105,000 คน

แปลว่า ถ้าใครมาจองคิวลงทะเบียนฉีดตอนนี้ ถ้าไม่ใช่กลุ่มอายุเกิน 60 ปีหรือป่วยเจ็ดโรคเรื้อรัง ซึ่งจะได้คิวก่อนคนอื่นแล้ว ก็คงจะได้วันนัดฉีดในช่วงเดือนตุลาคมแล้วนะ เพราะของเดือนกันยายนเราจะลงนัดวันละ 3,500 คน และคงจะฉีดไปได้ทั้งเดือนราว 105,000 คน จาก 180,000 คิวที่จองอยู่และรอวันนัดฉีดค้างอยู่ตอนนี้

สำหรับสถานการณ์ของโรงพยาบาลสนาม วันนี้เรารับผู้ป่วยใหม่เกือบทั้งหมดมาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รวม 35 คน และส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้ 36 คน กับส่งผู้ป่วยที่อาการหนักมากขึ้น กลับไปรับการดูแลที่ รพ.ธรรมศาสตร์ อีกสามคน วันนี้จึงเหลือยอดผู้ป่วยที่ รพ.สนาม จำนวน 380 คน

สำหรับโครงการ Home Isolation เรามีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 1,200 รายแล้ว และมีผู้ป่วยที่ยังแอกทีฟอยู่ในโครงการนี้อยู่กว่า 700 คน ที่พวกเราต้องติดตามมอนิเตอร์และคอยดูแลถามสารทุกข์สุกดิบตลอดจนติดตามสัญญาณชีพอยู่ทุกวัน พรุ่งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดดสำหรับระบบการดูแลผู้ป่วยในโครงการนี้ ซึ่งจะได้มาเล่าให้ฟังต่อไป

สำหรับเรื่องวัคซีน Pfizer สำหรับฉีดเป็นบูสเตอร์ให้กับบุคลากรด่านหน้าของเรา ที่เราเพิ่งจะรำพึงรำพันเรื่องการได้รับวัคซีนมาเพียง 60% ของบุคลากรที่แสดงความจำนงและมีคุณสมบัติครบถ้วนไปเมื่อวานนี้ วันนี้เราได้รับข่าวดีที่จะช่วยแก้ปัญหาข้อถกเถียงในโรงพยาบาล เรื่องการจัด priority ของบุคลากรที่จะได้ฉีดก่อนหลังแล้ว

โดยกรมควบคุมโรคได้จัดส่งวัคซีนสำหรับบุคลากรส่วนที่ยังจัดให้ขาดอยู่อีก 40% จำนวน 835 คนให้เราเรียบร้อยแล้วในบ่ายวันนี้ ขอขอบคุณ คร. ที่เห็นความสำคัญในการดูแลขวัญกำลังใจของคนที่รบอยู่แนวหน้าใน รพ.ต่างๆ ทั่วประเทศด้วย.