การระบาดของไวรัสโควิด (Covid-19) ในประเทศไทยระลอกแรกต้นปี 2020 เกิดวิถีใหม่ หรือที่เรียกว่า “New Normal” จนถึงคลื่นลูกใหญ่ระลอก 3 ปี 2021 นี้เป็นการตอกย้ำวิถีใหม่กับสถานการณ์โควิดได้ชัดยิ่งขึ้น พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจากเดิมที่เคยออกนอกบ้าน เดินซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า, ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือตลาดขนาดใหญ่เปลี่ยนมาเป็นการสั่งซื้อสินค้าและเรียกใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง ไลน์ (LINE) และเฟซบุ๊ก (Facebook) แทน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้งาน LINE และ Facebook อยู่ที่อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง +5.8% (ประมาณ 3 ล้านคน)
“โซเชียลคอมเมิร์ซ” อาจไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเทรนด์ล่าสุด จากการเติบโตของกระแสโซเชียลมีเดีย และการขายสินค้าผ่านการแชตของคนไทยในปี 2018 โดยโซเชียลคอมเมิร์ซ ณ ตอนนั้นยังเป็นระบบการทำงานผสมผสานระหว่าง “แชตบอต (chatbot)” กับ “บุคคล (human manual)” ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ โดยยิ่งขายได้ดีเท่าไร ก็ยิ่งใช้ทรัพยากรบุคคลเพิ่มมากขึ้น ไว้คอยตอบคำถามและบริหารจัดการขายสินค้าหรือบริการ ระบบแชตได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้กับแชตบอตให้สามารถโต้ตอบได้ใกล้เคียง เสมือนพูดคุยกับมนุษย์มากยิ่งขึ้นในชื่อ AI Chatbot โดยเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการทุกด้านของผู้บริโภคที่ใจร้อนขึ้น และต้องการความรวดเร็วในการตอบสนองที่มากยิ่งขึ้น
จากสถิติอัตราการเติบโตที่กล่าวมา คุณวิโรจน์ ฐานไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการสื่อดิจิตอล ของอองซอมเบิล ประเทศไทย (Ensemble Thailand) ภายใต้เครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย (IPG Mediabrands Thailand) ได้มองเห็นโอกาสจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในวิถีใหม่ยุค New Normal ที่หันมาใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านช่องทางโมบายล์แอปพลิเคชัน รวมถึง “โซเชียลคอมเมิร์ซ” เป็นหลัก ทั้งนี้ทางทีมได้มีโอกาสพูดคุยและช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ในหลายประเภทธุรกิจ ทำให้เข้าใจความต้องการลูกค้าที่กำลังปรับกลยุทธ์รับมือวิถีใหม่ของผู้บริโภค จึงมีไอเดียที่จะเพิ่มศักยภาพให้ระบบแชตในโซเชียลแพลตฟอร์มยอดนิยมสูงสุดอย่าง LINE และ Facebook โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้รองรับฟังก์ชั่นการใช้งานธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะ “จ่าย, จอง, ลอง, ช็อป, เช่า-ซื้อ” จบการขายในบทสนทนาเดียว สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยระบบชำระเงินที่ยืดหยุ่น ปลอดภัยในการป้องกันข้อมูล สะดวกต่อทุกกลุ่มอายุ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและลูกค้าทุกธุรกิจและทุกอุตสาหกรรม
5 โซลูชั่นเทคโนโลยีที่จะช่วยติดปีกและเพิ่มศักยภาพให้กับ “โซเชียลคอมเมิร์ซ” อย่างครบวงจร
1. Natural Chats & Conversation การสร้างบทสนทนาหรือแชตโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติใกล้เคียง “ภาษามนุษย์” มากที่สุด ผ่านเทคโนโลยีการเรียนรู้จดจำการสื่อสารแบบเฉพาะเจาะจง ที่จะช่วยลดทรัพยากรแอดมินและทีมงานได้อย่างมาก ทั้งด้านค่าใช้จ่ายและการเทรนนิ่ง
2. Tailor-Made & Customization ถือเป็นจุดเด่นสุดในการเปลี่ยนให้ทุกแบรนด์หันมาใช้ “โซเชียลคอมเมิร์ซ” คือ ฟังก์ชั่นการทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนให้ครอบคลุมกับทุกธุรกิจลูกค้าแต่ละประเภท ทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, ผลิตภัณฑ์สินค้าทั่วไป และธุรกิจการให้บริการต่างๆ ซึ่งมีความแตกต่างกัน
3. Insights & Analytics การเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึก ที่จะช่วยให้เราเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมนำไปวิเคราะห์และพัฒนาแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด
4. E-Commerce Solution ระบบขายสินค้าและบริการแบบครบวงจรที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ให้ธุรกิจของลูกค้า โดยสามารถปรับเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลต่างๆ ที่ทางลูกค้ามีหรือต้องการได้ ทั้งระบบขนส่ง, การจัดเก็บสินค้า, ข้อมูลสินค้า หรือฐานลูกค้า
5. Flexible Payment หัวใจหลักที่สำคัญที่สุด คือ ระบบชำระเงินที่ปลอดภัยตอบโจทย์ลูกค้าทุกระดับ ทุกกลุ่ม ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะตัดบัตรเครดิตหรือโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง รองรับทุกธนาคาร
หากลูกค้าท่านใดสนใจหรือต้องการข้อมูลเรื่องการพัฒนา “โซเชียลคอมเมิร์ซ” แบบครบวงจร ทางทีมอองซอมเบิล ประเทศไทย (Ensemble Thailand) ยินดีให้คำปรึกษา ทั้งด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับธุรกิจของคุณมากที่สุด ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสรอรรถ ปวนกัน, ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อองซอมเบิล ประเทศไทย อีเมล soraaut.puangun@ensembleww.com โทร. +66 (0) 83 998 9957