เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา ตำแหน่งครู โดยหลักเกณฑ์ใหม่ได้กำหนดให้ข้าราชการครูทุกคนทำข้อตกลงในการพัฒนางานกับผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นประจำทุกปี ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1.ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ และ 2.ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน โดยมีรอบการประเมินปีงบประมาณละ 1 ครั้ง ผลการประเมินต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และนำมาใช้ในการบริหารงานบุคคล ได้แก่ ใช้เป็นคุณสมบัติในการขอรับการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ใช้เป็นผลการประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ และใช้เป็นองค์ประกอบ ในการประเมินเพื่อพิจารณาเลื่อนเงินเดือน
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า การยื่นคำขอให้ยื่นได้ตลอดปี ภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยหากยื่นไว้แล้วต้องได้รับแจ้งมติไม่อนุมัติก่อน จึงจะยื่นในวิทยฐานะเดิมได้ ซึ่งคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอต้องมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งคงวิทยฐานะ 4 ปีติดต่อกัน กรณีลดระยะเวลาจะต้องมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งวิทยฐานะ 3 ปีติดต่อกัน เช่น มีการพัฒนางานตามข้อตกลงในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 3 รอบ การประเมินผ่านเกณฑ์ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าภาคทัณฑ์ในช่วง 4 ปีย้อนหลัง เป็นต้น โดยผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีผลงานวิชาการด้านการประเมิน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน และด้านผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ทั้งนี้ การยื่นคำขอให้ยื่นคำขอและหลักฐานประกอบการประเมิน ผ่านการประเมินวิทยฐานะระบบดิจิทัล (DPA) สำหรับหลักเกณฑ์วิทยฐานะใหม่นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 พ.ค.65 โดยจะดำเนินการคู่ขนานไปกับคนที่ยังยื่นขอตามหลักเกณฑ์เก่า ที่ยังใช้สิทธิตามเกณฑ์เดิมจนถึงวันที่ 1 พ.ค.65.
...