นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้ประชุมรับทราบนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และรายงานผลการดำเนินงานในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยทั้งการบริหารงาน และการจัดการศึกษารองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นการวางแผนการบริหารจัดการข้อมูลหรือ Big Data ของ ศธ.โดยตนจะนำข้อมูลของทุกองค์กรหลักใน ศธ.ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และสภาการศึกษา (สกศ.) มาบูรณาการรวมข้อมูลไว้เป็นหนึ่งเดียว เพราะเป็นเรื่องข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการศึกษาถือเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ต้องเกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณที่ผ่านมาการที่ ศธ.ได้รับการจัดสรรงบประมาณได้ไม่เต็มจำนวนที่เสนอขอ ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากข้อมูลการศึกษาที่ไม่ครบถ้วน
“ที่ผ่านมา โครงสร้าง ศธ.บริหารแบบเป็นแท่ง ขาดการบูรณาการและสื่อสาร ดังนั้น ผมจึงนำข้อมูลของทุกแท่งมารวมกันเพื่อให้เกิดความเชื่อมต่อในการทำงาน และบอกถึงความต้องการให้ชัดเจนว่า เราอยากจะได้ข้อมูลด้านไหนทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการศึกษาและการจัดทำงบประมาณ การบูรณาการฐานข้อมูลของ ศธ.นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในหลายเรื่อง เช่น การทำสมุดพกนักเรียนเมื่อเด็กนักเรียนคนหนึ่งได้มาเรียนในโรงเรียนดังที่ กทม. ฐานข้อมูลที่ถูกใส่ไว้จะต้องระบุว่าเด็กมีการพัฒนาทักษะมากน้อยแค่ไหน มีความชอบอะไร และการเรียนการสอนตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งในอนาคตสมุดพกข้อมูลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าในวิชาชีพของครูเอง โดยที่ไม่ต้องไปทำวิทยฐานะให้เสียเวลา” รมว.ศธ.กล่าว.
...