ตามที่มีผู้ปกครองบางกลุ่มเสนอแนวทางการจบการศึกษาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ควรประกาศให้นักเรียนจบการศึกษาในปีนี้แบบอัตโนมัติ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น โดยให้ครูประจำชั้นเป็นผู้ประเมินการเรียนจากการเรียนของเด็กในช่วงที่ผ่านมานั้น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางที่หลายๆประเทศ ที่ประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใช้ เพื่อที่จะให้ผู้เรียนจบการศึกษาในปีการศึกษานี้ ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ศึกษารายละเอียดในเรื่องนี้ โดยนำแนวทางที่ประเทศต่างๆใช้มาประกอบการพิจารณาด้วย ตนคงยังไม่สามารถประกาศได้ว่าจะใช้วิธีใด เนื่องจากการจบการศึกษายังมีนักเรียนในระดับชั้น ม.6 ที่มีความจำเป็นต้องใช้คะแนนเฉลี่ยสะสมรวม (GPAX) เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้น ศธ.จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน คาดว่า สพฐ.จะนำผลการศึกษามาหารือร่วมกับตนในเร็วๆนี้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ ศธ.ได้ให้สถานศึกษาในสังกัด และในกำกับหยุดการเรียนการสอนใน 28 จังหวัดจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2564 โดยให้มีการเรียนการสอนแบบผสมผสานในรูปแบบออนไลน์และการแจกใบงานให้นักเรียนกลับไปทำที่บ้านนั้น ศธ.ได้รับทราบปัญหาแล้วว่าจำนวนใบงานที่มากเกินไปจนนักเรียนเครียด แต่ต้องยอมรับว่าการเกิดวิกฤติในครั้งนี้เกิดขึ้นทั่วโลก และการเรียนแบบออนไลน์อาจเป็นสิ่งใหม่ที่ต้องมีการปรับตัวทั้งครูและนักเรียน โดย ศธ.จะพยายามแก้ไขปัญหาและหาความเหมาะสมเพื่อให้เกิดความสมดุลให้มากที่สุด
“การเรียนผสมผสานถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นจำเป็นในอนาคต แต่จำเป็นต้องหาจุดสมดุลในการให้งานให้การบ้านแก่นักเรียน โดยต้องดูที่การให้การบ้านแล้ววัดผลได้เป็นหลัก ซึ่งต้องยอมรับว่าในเมื่อครูไม่ได้เจอนักเรียน 1 สัปดาห์ ก็มีความจำเป็นต้องให้การบ้านนักเรียนจำนวน 1 สัปดาห์เช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ก็อาจทำให้นักเรียนเกิดความกดดัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การแบ่งเวลาหากมีการแบ่งเวลาที่มีประสิทธิภาพก็จะบริหารจัดการงานต่างๆที่ได้รับมอบหมายได้ เพราะนักเรียนอยู่บ้านมีเวลามากขึ้น หากมีการบริหารที่ดีก็จะแก้ไขปัญหาได้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว.
...