สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลให้ท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ก็ยิ่งมีมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในหลากหลายช่องทาง ซึ่งก็มีข่าวให้เห็นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ผมขอนำเสนออีกหนึ่งช่องทางที่มิจฉาชีพใช้หลอกเหยื่อหากินบนความทุกข์ของคนอื่น ซึ่งมาในรูปแบบตัวแทนรับจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกครับ

เน็ตไอดอลสาวรายหนึ่ง มีความต้องการจะจองตั๋วเครื่องบินไปร่วมทำบุญที่จังหวัดนครพนม เน็ตไอดอลสาวจึงหาข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ต โดยสืบค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก จนได้พบกับข้อมูลตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่มีผู้โพสต์ข้อเสนอราคาสุดพิเศษ พร้อมกับได้โพสต์ลิงก์ของสายการบินแห่งหนึ่งไว้ เน็ตไอดอลสาวไม่รอช้ากดลิงก์ เพื่อตามหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทันที แต่ลิงก์กลับพาเข้าไปพบกับเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน

เน็ตไอดอลสาวไม่ทันสังเกตว่า ลิงก์ของสายการบินดังกล่าวนั้น มีตัวอักษรต่อท้ายที่สะกดไม่เหมือนกับชื่อของสายการบินที่แท้จริง และเชื่อมั่นในรีวิวของลูกค้าที่โพสต์ข้อความชื่นชมตัวแทน เน็ตไอดอลสาวจึงทำการจองตั๋วเครื่องบินและโอนเงินค่าจองบินให้กับตัวแทนดังกล่าว แต่ในภายหลังตัวแทนดังกล่าวนั้น กลับติดต่อไม่ได้และบล็อกเน็ตไอดอลสาวทุกช่องทางการสื่อสาร ทำให้เชื่อได้ว่ามีการโพสต์ข้อความหลอกลวง เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของเน็ตไอดอลสาวหรือผู้ถูกหลอกลวง

...

กรณีแบบนี้มิจฉาชีพจะมีความผิดตามกฎหมายข้อหาอะไรบ้าง

การโพสต์ข้อความในลักษณะนี้เป็นการหลอกลวงประชาชน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา 342 อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

ประกอบกับ การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ด้วย มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท

นอกจากนี้ผู้กระทำความผิดยังต้องรับผิดโดยคืนเงินที่เอาไปและชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งอีกด้วย

แนวทางดำเนินการ ผู้เสียหายจะต้องรีบไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนและขอให้พนักงานสอบสวนออกหนังสืออายัดเงินในบัญชีดังกล่าวและถ้าสามารถหาข้อมูลของผู้เสียหายรายอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อนำไปเป็นหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวนได้ยิ่งดีครับ

สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ