เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศทางทะเลได้พักฟื้น ทำให้ในวันนี้ท้องทะเลได้กลับมาสวยงาม น้ำทะเลใส หาดทรายขาวสะอาด ฝูงปลาแหวกว่ายเต็มท้องทะเล ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวกลับไปสัมผัสมนตร์เสน่ห์ของท้องทะเลไทยอีกครั้ง ในโอกาสนี้ “บ้านปู เน็กซ์” และ “ภูเก็ต พัชทรี ทัวร์” จึงได้นำเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเลลำแรกของไทย ‘บ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่’ (Banpu NEXT e-Ferry) มาให้บริการนักท่องเที่ยวในภูเก็ตเป็นแห่งแรก ในเส้นทางภูเก็ต-พังงา พร้อมชวนทุกคนชิลไปกับการล่องเรือพลังงานสะอาด สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ด้วยการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter บ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของกลุ่มบ้านปูฯ ในฐานะผู้ให้บริการพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงได้พัฒนา ‘บ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่’ (Banpu NEXT e-Ferry) เรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเลลำแรกของไทย และได้ร่วมกับภูเก็ต พัชทรี ทัวร์ นำเรือลำนี้มาให้บริการในการเที่ยวทะเลภูเก็ตเป็นแห่งแรกในไทย เนื่องจากภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เราจึงอยากสร้างการท่องเที่ยวมิติใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติที่เริ่มทยอยกลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง หลังจากการเปิดประเทศตามแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของรัฐบาล ดังนั้นการนำเรือท่องเที่ยวไฟฟ้ามาให้บริการจะเป็นการยกระดับการบริการด้านการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน และผลักดันการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และชุมชนในระยะยาว

ซึ่งความพิเศษของ ‘บ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่’ คือ 1. มอบการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย 2. มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้วัสดุหลักเป็นอะลูมิเนียมในการผลิตเรือ แข็งแรงทนทาน ช่วยลดการซ่อมแซม และการเปลี่ยนอะไหล่บ่อย ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ระบบบริหารงานคุณภาพในการผลิตเรือทุกขั้นตอน (Quality Management System) รวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้กลางลำเรือ เพื่อลดการสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์ต่างๆ 3. ประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่มีคราบน้ำมัน ไม่มีเสียงรบกวน และไม่มีมลพิษทางอากาศ”

นายไชยา ระพือพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ต พัชทรี ทัวร์ จำกัด กล่าวว่า “แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงมาก แต่สิ่งที่บริษัทฯ เล็งเห็น คือ โอกาสในการเตรียมธุรกิจ และบริการของเราให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการแสดงจุดยืนของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันการท่องเที่ยวสีเขียวควบคู่ไปกับการมอบบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งตอนนี้ธรรมชาติ และสัตว์ทะเลฟื้นฟูดีขึ้นมาก การท่องเที่ยวสีเขียวจะช่วยรักษาระบบนิเวศทางทะเล และความสวยงามของธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การนำเรือท่องเที่ยวไฟฟ้ามาให้บริการ ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษา รวมถึงช่วยปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนเที่ยวแบบรักษ์โลก ตลอดจนช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และชุมชนไปพร้อมกัน

โดยบ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่ พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวในเส้นทางเกาะเจมส์ บอนด์ เริ่มจากท่าเทียบเรืออ่าวปอไปยังอ่าวพังงา ซึ่งประกอบด้วย เกาะพนัก เกาะห้อง เขาตะปู (เกาะเจมส์ บอนด์) และเขาพิงกัน ผู้ที่สนใจจะไปสัมผัสการเดินทางด้วยเรือท่องเที่ยวพลังงานสะอาด บ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 076-263-558 เว็บไซต์ www.phuketpatritourgroup.com หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ Phuket Patri Tour

“เราคาดการณ์ว่า หากเรือท่องเที่ยวทางทะเลที่ให้บริการแถบทะเลอันดามัน และอ่าวไทยใน 4 จังหวัด ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 2,000 ลำ* เปลี่ยนมาเป็นเรือไฟฟ้ารูปแบบเดียวกับบ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่ และนำมาให้บริการเป็นเวลา 1 ปี จะช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้กว่า 53 ล้านลิตร และลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ถึง 1.4 แสนตัน หรือเทียบเท่ากับปลูกต้นไม้ 17 ล้านต้น จึงอยากให้ผู้ประกอบการหันมาใช้เรือท่องเที่ยวไฟฟ้ากันมากขึ้น และขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกคน มาสัมผัสการท่องเที่ยวสีเขียวของภูเก็ต ในอนาคตเรามีแผนจะพัฒนา Smart Mobility Town ที่ท่าเรืออ่าวปอ โดยจะนำเรือไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงโซลูชันด้านพลังงานสะอาดอื่นๆ มาเติมเต็มการใช้พลังงานสะอาดเพื่อการท่องเที่ยวให้ครบวงจรยิ่งขึ้น” นางสมฤดี กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม
*รายงานการสำรวจข้อมูลเรือโดยสาร/ท่องเที่ยว ปีงบประมาณ 2562 https://www.md.go.th/stat/images/pdf_report_stat/2562/travel_62.pdf
ปัจจุบันมีเรือท่องเที่ยวทางทะเลประมาณ 3,000 ลำ โดยกว่า 2,000 ลำให้บริการอยู่ในแถบทะเลอันดามัน และอ่าวไทยใน 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี