มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) สถาบันการศึกษาเอกชนชั้นนำด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมบริการของประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับจาก QS World University Rankings ซึ่งเป็นสถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากประเทศอังกฤษ ให้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ครองอันดับด้านความหลากหลายของเชื้อชาตินักศึกษา ตั้งแต่ปี 2559 และในปี 2563 UTCC เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการจัดอันดับใน Top ASEAN Universities และได้รับคะแนนจากความโดดเด่นในด้าน International Co-authored Papers (ผลงานวิชาการที่มีผู้วิจัย/ผู้เขียนร่วมระดับนานาชาติ) โดย RUR World Rankings นอกจากนี้ ยังเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับ 1 ใน 15 มหาวิทยาลัยที่บัณฑิตจบออกไปแล้วนายจ้างพึงพอใจสูงที่สุด ในปัจจุบันวิทยาลัยนานาชาติเพื่อการจัดการ (International School of Management, iSM) เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติในสาขาบริหารธุรกิจ และบัญชี ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งมีนักศึกษามาจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
ผศ.ดร.ณัฐพันธ์ บัววราภรณ์ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติเพื่อการจัดการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “จากประสบการณ์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ทำงานร่วมกับภาคธุรกิจมาอย่างยาวนานทั้งในประเทศและต่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติเพื่อการจัดการ (iSM) จึงมุ่งเน้นพัฒนาหลักสูตรบริหารธุรกิจและหลักสูตรบัญชีภาคภาษาอังกฤษ เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาที่มีมาตรฐานระดับสากล ในการสร้างบัณฑิตที่พร้อมออกไปทำงานกับองค์กรภาคธุรกิจชั้นนำ หรือเป็นผู้ประกอบการธุรกิจได้อย่างมั่นใจ โดยในระดับปริญญาตรีจะมี 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (Bachelor of Business Administration, BBA) และ หลักสูตรบัญชีบัณฑิต (Bachelor of Accountancy, BAcc) ซึ่งนักศึกษาที่จบจากหลักสูตรได้มีโอกาสในการเข้าร่วมงานกับองค์กรธุรกิจ รวมถึงบริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำระดับโลก (BIG4) จำนวนมาก โดยสำหรับระดับปริญญาโทเป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตภายใต้ชื่อ UTCC Global MBA ซึ่งเปิดสอนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2532 ในปัจจุบันหลักสูตร Global MBA มีการจัดการเรียนการสอนทั้งหมด 3 วิทยาเขต ได้แก่ กรุงเทพฯ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ โดยมีแผนที่จะเปิดดำเนินการอีก 2 วิทยาเขต ในประเทศเวียดนามและกัมพูชา นักศึกษาที่เรียนในหลักสูตร Global MBA จึงสามารถเลือกเรียนในแต่ละวิทยาเขตที่มีได้ทั้งหมด iSM มุ่งเน้นที่จะขับเคลื่อนและผลักดันให้ทุกหลักสูตรให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจและการบัญชีชั้นนำในกลุ่มประเทศอาเซียน จากความสำเร็จที่ผ่านมาของหลักสูตร Global MBA ในประเทศพม่านั้น ได้สร้างมหาบัณฑิตที่จบจากหลักสูตรมาแล้วมากกว่า 700 คน และพร้อมที่จะสร้างนิยามใหม่แห่งการเรียนรู้สำหรับกลุ่มผู้บริหารและนักธุรกิจที่มีประสบการณ์ที่ต้องการยกระดับทักษะการบริหารและการสร้างความเป็นผู้ประกอบการภายองค์กรธุรกิจ (Intrapreneurship) ในรูปแบบของหลักสูตร Upskill ระยะสั้น UTCC Mini MBA โดยทุกหลักสูตรที่ iSM มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติได้จริง การเรียนจึงไม่เน้นแค่การเรียนการสอนทั่วไปในห้องเรียน แต่จะเน้นการเรียนรู้จากนักธุรกิจที่มีประสบความสำเร็จ การได้เรียนรู้จากภาคธุรกิจจริง รวมถึงมีโอกาสในการไปเรียนรู้ในต่างประเทศ”


“ด้วยความมุ่งมั่นและต้องการให้ผู้เรียนมีความแตกต่างจากหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษโดยทั่วไป วิทยาลัยนานาชาติฯ เน้นให้ผู้เรียนสามารถนำองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติได้ในการทำงานทั้งในประเทศและระดับโลกได้ เพราะฉะนั้นการเรียนจึงไม่เน้นแค่การเรียนการสอนทั่วไปในห้องเรียน แต่จะเน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียนควบคู่ไปพร้อมกัน โดยห้องเรียนที่ iSM จะเป็นระบบ Digital Hybrid Learning จึงมีจอที่สามารถจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Interactive learning ซึ่งภายหลังจากวิกฤติไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ทาง iSM จึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริม เพื่อทำให้ห้องเรียนมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนการสอนที่สามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีผ่าน Interactive Learning Platform ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบออนไลน์แบบเดิม”

“สำหรับนักเรียนที่จบจากโรงเรียนที่เป็นภาคภาษาไทยที่มีความกังวลที่จะเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรภาษาอังกฤษนั้น อยากจะให้มองความกังวลนั้นเป็นโอกาสเพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง แม้จะมีทักษะทางภาษาอังกฤษไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ดีในเบื้องต้น แต่ตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ที่วิทยาลัยนานาชาติฯ จะมีการออกแบบกระบวนการสนับสนุนและช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ รวมถึงกิจกรรมตลอดหลักสูตรที่สร้างการมีส่วนร่วมกับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ”

“จากสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางด้านธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนสู่การแข่งขันในระดับโลก การที่ผู้เรียนได้เริ่มต้นการเรียนรู้องค์ความรู้ผ่านมุมมองที่เป็นภาษาอังกฤษจากคณาจารย์ชาวไทยและชาวต่างชาติที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก จึงเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะก้าวไปอีกขั้นเพื่อการทำงานและทำธุรกิจในอนาคต มากกว่าการเรียนรู้ที่เป็นภาคภาษาไทย โดยวิทยาลัยนานาชาติฯ ยังได้สร้างความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรปริญญาตรี 2 ใบ ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างชาติชั้นนำอย่าง University of Newcastle ประเทศออสเตรเลีย และมหาวิทยาลัยหมิงฉวน ประเทศไต้หวัน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่นักศึกษาในการเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ในต่างประเทศ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ism.utcc.ac.th/“ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติเพื่อการจัดการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวทิ้งท้าย