รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตรี ผอ.ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า จากการประชุมรับฟังความคิดเห็นภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ เรื่อง “คุณธรรมกับการแก้ไขปัญหาวิกฤติในสังคมไทยปัจจุบัน” โดยเครือข่ายได้ร่วมกันสะท้อนความคิดเห็นการขับเคลื่อนงานโดยเฉพาะวิกฤติโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญไม่ใช่เพียงการจัดระบบสาธารณสุขให้เพียงพออย่างเดียว แต่การป้องกันโรคที่ดีที่สุดคือหัวใจแห่งคุณธรรมของคนไทยที่ทำให้ทั่วโลก ชื่นชมรับมือการแพร่ระบาดของโรคที่ดี มีการช่วยเหลือ แบ่งปันซึ่งกันและกัน เช่น ตู้ปันสุข ข้าวแลกปลา สิ่งเหล่านี้มาจากคุณธรรมทั้งเรื่องความพอเพียง มีวินัย ความซื่อสัตย์ มีจิตอาสา ที่จะปกป้องตนเองและคนที่รัก จนมาถึงเรื่องท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นปัจจุบันที่มาเกี่ยวกับทัศนคติ และพฤติกรรม จนทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างช่วงวัยขึ้น
รศ.นพ.สุริยเดวกล่าวว่า กรณีดังกล่าวก็ต้องอาศัยหัวใจแห่งคุณธรรมเข้ามาแก้ไขปัญหาเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย ผู้ใหญ่จะต้องมีสติ รับฟัง และใช้ถ้อยคำที่ดี และมีสุนทรียะในการให้ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ให้ความรัก อบอุ่น และปลอดภัย 2.ให้การเป็นผู้ฟังที่ดีสะท้อนความรู้สึกที่ดี การเหลาความคิดใช้คำถามปลายเปิด เช่น รู้สึกอย่างไร และจะร่วมกันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างไร 3.รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง 4.ให้การกำหนดกติการ่วมกัน และ 5. ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสามารถเริ่มทำและสอนได้จากที่บ้านเริ่มโดยสถาบันครอบครัว ด้วยการเปิดเวทีในบ้าน พ่อและแม่ไม่เพียงสอนลูกว่าทำดีอย่างไร แต่จะต้องทำตนให้เป็นต้นแบบ เพื่อให้เด็กได้เห็นและสามารถปฏิบัติตามได้ อีกทั้งเด็กยังสามารถแสดงความคิดเห็นและได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถือเป็นการปลูกจิตสำนึกและวิธีปฏิบัติที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาระยะยาวได้
...
“ที่ประชุมยังถอดบทเรียนจาก 6 แพลตฟอร์มเครือข่ายของสังคม เพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้คนดีมีที่ยืน โดยเฉพาะการสร้างองค์กรคุณธรรมของประเทศไทย ด้วยการจัดงานสมัชชาคุณธรรม 4 ภาค ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.เชียงราย จ.อุดรธานี และ จ.สุราษฎร์ธานี มีการลงนามบันทึกความร่วมมือการพัฒนาและส่งเสริมองค์กรคุณธรรมและมาตรฐานคุณธรรมในกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมสมัชชาดิจิทัลแพลตฟอร์มที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2564 รองรับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ด้วย” ผอ.ศูนย์คุณธรรมกล่าว.