สสว.ผนึกกำลัง 7 หน่วยงาน ประกาศความสำเร็จโครงการ SME ONLINE ปี 4 พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการออนไลน์ด้วยดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เดินหน้าฝ่าวิกฤติสู่วิถีชีวิตใหม่ ยกร้านเด็ด-ดังจากโลกโซเชียลกว่า 200 ร้านค้า ชวนช็อปสนั่น 10-15 ก.ย. 2563 ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางกะปิ คาดสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในการประกาศความสำเร็จโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการออนไลน์ด้วย Digital Marketing และเปิดกิจกรรม “SME online ... Live Shopping” ว่า สสว. ได้ร่วมกับ 7 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการออนไลน์ด้วย Digital Marketing ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิดดิจิทัล ทู โกลบอล (Digital to Global) ซึ่งเป็นนโยบายในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีไปสู่การเป็นโมเดิร์นไนเซชั่น เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดออนไลน์ในระดับสากล

นายวีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการในปีนี้ได้ระดมความรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในการทำตลาดออนไลน์ในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง พร้อมกลยุทธ์การตลาดแบบดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เชิงลึก โดยได้ส่งเสริมผู้ประกอบการที่ยังไม่มีร้านค้าออนไลน์ 8,835 ราย ให้ได้เรียนรู้การบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์ การเขียนเนื้อหาสินค้า การถ่ายภาพ และการขนส่ง เป็นต้น จนสามารถเปิดร้านค้าใหม่ได้ 4,308 ร้านค้า


นอกจากนี้ สสว. ยังได้ติดตามและส่งเสริมผู้ประกอบการรายเดิมที่มีร้านค้าออนไลน์แล้ว แต่ยังขายไม่ได้ ให้เข้าอบรมเชิงลึก อาทิ การใช้ LINE OA การใช้ Chat Bot การเจาะกลุ่มลูกค้าด้วย Facebook การทำวิดีโอเพื่อนำเสนอสินค้า การใช้ SEO SEM อีกจำนวน 1,600 ราย

สำหรับผู้ประกอบการที่เริ่มไปได้ดีกับการค้าออนไลน์แล้ว สสว. ได้เพิ่มศักยภาพด้วย ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง แพลน พร้อมให้คำปรึกษาและติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด จำนวน 800 ราย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดสากล ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2560-2563 มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการและได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์แล้ว 181,569 ราย สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้กว่า 34,392 ร้านค้า มีจำนวนสินค้าจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 442,220 รายการ และสร้างยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท

ผอ.สสว. เผยอีกว่า สสว. ยังได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความพร้อมจำนวน 45 ราย ในการนำสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์จีน โดยการปรับปรุงสินค้า และบรรจุภัณฑ์ จัดทำภาพสินค้าและจัดทำเนื้อหาภาษาจีน ให้เหมาะสมกับตลาดจีน พร้อมทั้งตรวจสอบเงื่อนไขความพร้อมของสินค้าในการนำเข้าเพื่อขายบน ออนไลน์ แพลตฟอร์มในประเทศจีน และดำเนินการนำสินค้าขึ้นบนแพลตฟอร์ม Taobao รวมถึงการจดทะเบียนการค้าในประเทศจีน (Trademark) การให้คำปรึกษาและดำเนินการจัดส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าประเทศจีน จัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายสินค้าบน Taobao โดยมีการจัดทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ภาษาจีน และ KOL (Key Opinion Leader) ของจีนเพื่อทำการรีวิวสินค้า อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ (Virtual Business Matching) กับคู่ค้าในจีน จัดทำ company profile ภาษาจีน และคำอธิบายสินค้าเพื่อส่งให้คู่ค้าขาวจีน และ Virtual Business Matching กับคู่ค้า (Buyer) ที่สนใจจากประเทศจีนอีกด้วย

“สสว. จัดกิจกรรม “SME Online … Live Shopping” ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการออนไลน์ด้วย Digital Marketing เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เปิดร้านค้าออนไลน์ที่เข้าร่วมโครงการฯ มีโอกาสได้นำสินค้าจริงมาพบกับผู้ซื้อกว่า 200 ร้านค้า เรียกว่าเป็นมหกรรมสินค้าเอสเอ็มอี โดยคัดสรรคุณภาพจากทั่วประเทศมาทดสอบตลาดและขายสินค้า ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางกะปิ ระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน 2563 เวลา 11.00-22.00 น. โดยนำผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ยกร้านค้า Online มาให้ช้อปของจริง อาทิ หวีขนหมูป่า เนื้อจระเข้ สเปรย์นาโน พร้อมจัดนาทีทอง แจกคูปองส่วนลดตลอดงาน หรือจะช็อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.smeonlineliveshopping.com และติดตาม Live สดการจัดกิจกรรมได้ทุกวันทางเฟซบุ๊ก Smeonline by OSMEP คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 5 ล้านบาท จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาช่วยกันอุดหนุนสินค้าเอสเอ็มอีของคนไทย เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจไทยฝ่าฟันทุกวิกฤติไปด้วยกัน” ผอ.สสว. กล่าวในที่สุด