งานวิจัยจาก Chalmers University of Technology ประเทศสวีเดน ตีพิมพ์ในวารสาร Nature เมื่อปี 2561 ระบุอย่างชัดเจน...อาหารออร์แกนิกสามารถทำให้เกิดการปล่อยมลพิษได้มากกว่าการปลูกพืชแบบปลอดภัยไร้สารตกค้าง
งานวิจัยครั้งนี้ ได้ศึกษาจากถั่วอินทรีย์ที่เพาะปลูกในสวีเดน พบว่าถั่วที่เพาะปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับถั่วที่ปลูกในฟาร์มปกติ
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะการปลูกพืชแบบอินทรีย์ผลผลิตต่ำกว่าปลูกพืชแบบปลอดภัยมาก เนื่องจากไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีที่พืชดูดซับไปใช้เป็นอาหารได้ทันที
ในเมื่อผลผลิตต่ำ จำเป็นต้องใช้พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น...ฉะนั้นการผลิตอาหารอินทรีย์ให้ได้ปริมาณเท่ากันกับการปลูกพืชแบบปลอดภัยไร้สารตกค้าง ต้องใช้พื้นที่มากกว่า
และหนทางเดียวที่จะปลูกพืชอินทรีย์ให้ได้มากเพียงพอต่อความต้องการ นำพาไปสู่การรุกพื้นที่ป่าไม้ สุดท้ายกลายเป็นการลดออกซิเจน เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์
การใช้พื้นที่ปลูกมากขึ้น ก็ต้องใช้พื้นดินมากขึ้น ขณะที่ดินก็ได้รับแต่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ที่มีไนโตรเจนเยอะ แต่ธาตุอาหารอื่นน้อย ก็อาจส่งผลต่อดินในระยะยาว หากไม่รู้จักปรุงดินให้ดี
นอกจากนั้น เมื่อพืชได้รับไนโตรเจนเยอะกว่าธาตุอาหารอื่นนอกจากบ้าใบแล้ว ยังสอดคล้องกับงานวิจัย “อาหารออร์แกนิกไม่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารที่ผลิตแบบปลอดภัยไร้สารตกค้าง”
สวีเดนไม่ต่างจากบ้านเรา มีนักการเมืองหยิบยกเอาเกษตรอินทรีย์มาเป็นประเด็นการเมือง ทีมวิจัยจึงมองว่า หากบรรลุเป้าหมายของนักการเมืองเหล่านี้แล้ว สภาพภูมิอากาศ การผลิตอาหารของสวีเดน อาจได้รับผลกระทบอย่างมาก
...
เกษตรอินทรีย์ดี ปลอดภัย ไม่เสี่ยงสารพิษ แต่ได้ปริมาณน้อยมาก ส่วนเกษตรปลอดภัยใช้ปุ๋ยยาอย่างเหมาะสม มีสารตกค้างไม่เกินปริมาณที่กำหนด เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของแต่ละประเทศ
ทางใครทางมัน ใครใคร่ทำแบบไหนก็ทำ...อย่าทะเลาะกันน่าจะดีกว่ามั้ย.
สะ–เล–เต