กรุงเทพฯและปริมณฑลกลับมาเผชิญฝุ่นพิษอีกรอบ ค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานถึง 50 สถานี ส่วนภาคเหนืออ่วมไม่แพ้กัน หลายจังหวัดอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ลำปางหนักสุดเจอทั้ง 4 สถานี ล่าสุดเกิดไฟป่ากว่า 20 จุด ผวจ.ต้องนั่ง ฮ.สำรวจก่อนบรรทุกน้ำขึ้นโปรยดับไฟ ส่วนที่กาฬสินธุ์ชาวบ้านยังเผาไม่เลิกลอบจุดไฟหาของป่าตรงข้ามศูนย์ราชการจังหวัดวอดเสียหายกว่า 40 ไร่
ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 58 สถานี วัดค่าได้ 34-81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบทุกพื้นที่เมื่อเทียบกับช่วงเช้าของเมื่อวาน โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่สีส้ม 50 พื้นที่ ได้แก่ กทม. เกินมาตรฐานบริเวณแขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน แขวงบางนา เขตบางนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ แขวงดินแดง เขตดินแดง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ริมถนนดินแดง เขตดินแดง แขวงพญาไท เขตพญาไท แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง ปริมณฑล เกินมาตรฐานบริเวณ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร
ภาคเหนือพบคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละออง PM 2.5 ตรวจพบค่าระหว่าง 34-80 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานระดับสีส้ม 12 พื้นที่บริเวณ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ และต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
...
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. เปิดเผยว่า ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของ กทม. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของ PM 2.5 ตรวจวัดได้ 50-78 มคก./ลบ.ม. ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและพบว่าเกินมาตรฐานจำนวน 31 เขต ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาวะอากาศเพื่อเฝ้าระวังฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 ก.พ. จะมีลมอ่อนและมีเมฆเป็นส่วนมากส่งผลให้มีการสะสมของฝุ่นละอองแนวโน้มมีปริมาณปานกลาง
ด้านศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 ช่วงเวลา 13.00-15.00 น. วัดได้ 53-90 มคก./ลบ.ม. ค่า PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและยังคงมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 36 เขต เพิ่มขึ้นจากช่วงเช้า 5 เขต ได้แก่ เขตราชเทวี เขตลาดพร้าว เขตห้วยขวาง เขตสะพานสูง และเขตดินแดง
ส่วนสถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าใน จ.ลำปาง พบจุดความร้อน หรือฮอตสปอตเกิดขึ้นหลายจุด ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดลำปาง (ปภ.ลำปาง) รายงานว่าพบจุดความร้อน 19 จุดในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เถิน 1 จุด (เขตป่าอนุรักษ์) อ.เสริมงาม 1 จุด (เขตป่าสงวนแห่งชาติ) อ.แม่ทะ 2 จุด (เขตป่าสงวนฯ 2) อ.แม่–เมาะ 3 จุด (เขตป่าสงวนฯ 2, ป่าอนุรักษ์ 1) อ.เมืองลำปาง 2 จุด (เขตป่าอนุรักษ์ 1, เขตป่าสงวนฯ 1) อ.เมืองปาน 1 จุด (เขตป่าสงวนฯ) อ.แจ้ห่ม 1 จุด (เขตป่าสงวนฯ) อ.งาว 8 จุด (ป่าอนุรักษ์ 4, เขตป่า สงวนฯ 3,เขตชุมชนและอื่นๆ 1 จุด)
วันเดียวกัน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง นำเจ้าหน้าที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสถานการณ์ไฟไหม้ป่าตั้งแต่พื้นที่ อ.เมืองลำปาง แม่เมาะ แจ้ห่ม เมืองปาน และวังเหนือ โดยเฉพาะจุดรอยต่อ 3 จังหวัดคือ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง กับ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย หลังรับแจ้งมีไฟไหม้ป่าในพื้นที่เขาสูงชัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดไฟไหม้ได้ พบไฟป่ากระจายกว่า 20 จุด บางจุดอยู่ในหุบเขาสูงชัน จึงใช้เฮลิคอปเตอร์บินโปรยน้ำ 5 เที่ยวบินจนสามารถควบคุมพื้นที่ไฟไหม้ป่าให้อยู่ในวงจำกัดได้
ที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานฯภูกระดึง และนายอดิศร เหมทานนท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง นำเจ้าหน้าที่กว่า 100 นายร่วมกันทำแนวกันไฟภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงและตามหมู่บ้านรอบอุทยานฯ รวมถึงเข้าดับไฟป่าที่ยังเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16-17 ก.พ.ที่ผ่านมา ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะควบคุมไฟป่าได้แล้ว แต่ยังมีบางจุดยังดับไม่สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลุกลามขึ้นมาอีก
จ.กาฬสินธุ์ เกิดเหตุไฟไหม้ป่าโคกหนองแล้ง ตรงข้ามศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ต.เหนือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และเทศบาลตำบลเหนือต้องนำรถบรรทุกน้ำเร่งดับไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอากาศแห้งและมีเศษใบไม้แห้งกิ่งไม้แห้งจำนวนมาก ส่งผลให้ไฟเผาป่าวอดเสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 40 ไร่ สอบถามชาวบ้านทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนจุดไฟเผาเพื่อหาของป่า จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดับไฟ เพราะกลัวจะลามไหม้บ้านและพื้นที่การเกษตร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จัดกำลังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากพบมีการแอบจุดไฟเผาป่าจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
...