สรุปข่าวเด่น-ข่าวดังปี 2562

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่10

ข่าวมหามงคลที่สร้างความปีติแก่พสกนิกรคนไทยทั่วประเทศคือ...พระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เป็นพระมหากษัตริย์โดย สมบูรณ์ เฉลิมพระนาม “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพล ราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทรา ธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว” และพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” พร้อมกันนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสุทิดา เป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี”

ต่อมาวันที่ 5 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ รวม 10 พระองค์ และเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้ประชาชนเฝ้าชมพระบารมีเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง จากนั้นวันที่ 12 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และเสด็จริ้วขบวนราบยาตราไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จล้นหลามและเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง.

เลือกตั้งใหญ่-จัดตั้งรัฐบาลตู่2

หลังจากรัฐบาล คสช.บริหารประเทศเกือบ 5 ปี ประชาชนคนไทยก็มีสิทธิเลือกตั้งเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย(ครึ่งใบ) ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับต่อท่ออำนาจ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. 500 คน แบ่งเป็นแบบเขตเลือกตั้ง 350 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน ซึ่งเกิดความโกลาหลในหลายเขต ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นการเลือกตั้งที่เละเทะที่สุด

ผลการเลือกตั้งออกมาพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.136 คน พรรคพลังประชารัฐ 116 คน พรรคอนาคตใหม่ 81 คน พรรคประชาธิปัตย์ 53 คน พรรคภูมิใจไทย 51 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 10 คน พรรคเสรีรวมไทย 10 คน พรรคประชาชาติ 7 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 คน พรรคชาติพัฒนา 3 คน พรรคพลังท้องถิ่นไทย 3 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน พรรคพลังชาติไทย 1 คน พรรคประชาภิวัฒน์ 1 คน พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 คน พรรคพลังไทยรักไทย 1 คน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน พรรคประชานิยม 1 คน พรรคประชาธรรมไทย 1 คน พรรคประชาชนปฏิรูป 1 คน พรรคพลเมืองไทย 1 คน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน และพรรคพลังธรรมใหม่ 1 คน การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นความตกต่ำอย่างหนักของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคอนาคตใหม่เป็นม้ามืด สร้างกระแสสีส้ม กวาด ส.ส.บัญชีรายชื่อมากถึง 50 คน

ท่ามกลางเกมเจรจาต่อรองยืดเยื้อในการจัดตั้งรัฐบาล ในที่สุดพรรคพลังประชารัฐสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ซึ่งได้มือจาก ส.ว. 250 คน เป็นแต้มต่อสำคัญ อย่างไรก็ตาม.....รัฐบาลตู่ 2 เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จึงต้องใช้บริการแจกกล้วยเลี้ยงลิงอยู่เรื่อยมา!!!

3 เหตุระทึก-ยิงกลางศาล

กระบวนการตุลาการยกเครื่องด้วยการออกมาตรการรักษาความปลอดภัยครั้งใหญ่ ...เมื่อเกิดเหตุระทึกขวัญในพื้นที่ศาลติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่ นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาล จังหวัดยะลา ใช้ปืน 9 มม. ยิงตัวเองบาดเจ็บภายในห้องพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2562 หลังเสร็จจากการอ่านคำพิพากษายกฟ้อง 5 จำเลยในคดีฆ่า 5 ศพ อ.บันนังสตา จ.ยะลา อ้างชนวนเหตุมาจากการถูกแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดี

ต่อมาวันที่ 4 พ.ย. 2562 ผู้ต้องหาคดียา เสพติด 3 คน ถูกเบิกตัวมา จากเรือนจำพิเศษหนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ไปขึ้นศาลจังหวัดพัทยา ก่อเหตุใช้มีดแทง ร.ต.อ.ธนะเมศฐ์ โพธิพันธ์ รอง สวป.สภ.สัตหีบ ช่วยราชการศาลจังหวัดพัทยา บาดเจ็บแล้วหลบหนีไปทั้งโซ่ตรวนบริเวณด้านหลังอาคารคุมผู้ต้องหาศาลจังหวัดพัทยา ก่อนที่ 1 ใน 3 จะยิงตัวเองเสียชีวิต ส่วนภรรยาบาดเจ็บ และเพื่อนอีกคนถูกตามจับได้ในที่สุด

ถัดมาเพียงสัปดาห์เดียว...เกิดโศกนาฏกรรมในห้องพิจารณาคดีของศาลจังหวัดจันทบุรี เมื่อสายวันที่ 12 พ.ย.2562 พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ ชักปืนยิงนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความฝ่ายโจทก์ และนายวิจัย สุขรมย์ ทนายร่วม เสียชีวิต ขณะไปเป็นจำเลยคดีฟ้องเท็จกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน มีนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย แย่งปืน ร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจศาล สาดกระสุนใส่ร่างอดีตนายพลคนดังจบชีวิตรวมเป็น 3 ศพ.

จับ ”ชัยวัฒน์” อุ้มฆ่าเผาบิลลี่

ตกเป็นข่าวดังฮือฮาเมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (สบอ.9) อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมอดีตลูกน้อง 3 คน คือ นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ในคดีฆ่ายัดถังเผานายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ หลังถูกจับกุมขณะนำน้ำผึ้งป่าออกจากพื้นที่อุทยานฯ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557

หลังพบหลักฐานสำคัญเป็นชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ถูกเผาทิ้งอำพรางคดีอยู่ในเขื่อนแก่งกระจาน และยังพบถังน้ำมัน 200 ลิตร อีก 1 ใบ หลังนำกระดูกไปตรวจสารพันธุกรรมพบว่าตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายบิลลี่ และสรุปว่านายบิลลี่เสียชีวิตแล้ว ต่อมาวันที่ 12 พ.ย.62 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวกเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และได้รับการประกันตัวออกไป และวันที่ 18 พ.ย. นายชัยวัฒน์ ถูกย้ายไปเป็น ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ปัตตานี ขณะที่การดำเนินคดียังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลยุติธรรม.

ฮีโร่น้ำท่วม...บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์

อิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลและคาจิกิ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562-3 กันยายน 2562 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ในพื้นที่ 32 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร อุดรธานี สระแก้ว ลำปาง เลย สุโขทัย ศรีสะเกษ และสกลนคร รวม 184 อำเภอ 836 ตำบล 7,293 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 419,988 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 26,521 หลัง ผู้เสียชีวิต 38 ราย มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับล้านคน แต่การช่วยเหลือกลับล่าช้าและไม่ทันสถานการณ์

“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ผจก.ฝ่ายกิจการ พิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมทีมงานที่ลงพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดภาคอีสาน ได้ประกาศควักเงินส่วนตัวประเดิม 2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ก่อนที่จะเป็นกระแสรวมพลังร่วมบริจาคช่วยเหลือร่วมกับพระเอกใจบุญได้สูงถึง 422,496,026 บาท ก่อนจะมีการจัดสรรแจกจ่ายให้ครอบครัวผู้ประสบภัยรายละ 5,000 บาท ในทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัย.

คดีฆาตกรรม..ลันลาเบล

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 17 ก.ย.2562 พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุพบศพ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลันลาเบล พริตตี้สาว อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟาในล็อบบี้ชั้นล่างของคาซ่า คอนโด ย่านรัชดา-ราชพฤกษ์ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ก่อนที่ตำรวจจะจับกุม ...นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น อายุ 24 ปี นายแบบ เทรนเนอร์ฟิตเนส และนักแสดงตัวประกอบ ผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย แจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ 1.กักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.พาผู้อื่นไปเพื่อกระทำการอนาจาร 3.กระทำอนาจารผู้อื่น ตามพยานหลักฐานภาพวงจรปิดหลายตัวจับภาพได้ตั้งแต่พาผู้ตายเข้ามาในคอนโดฯเมื่อเวลา 18.02 น. วันที่ 16 ก.ย. สภาพเหมือนคนหมดสติ จากนั้นเวลา 01.37 น. พบนายรัชเดชพาผู้ตายลงลิฟต์ จากห้องพักชั้น 6 ไปนอนบนโซฟาของล็อบบี้...จากการสอบสวนพบว่าผู้ตายรับงานชงเหล้าเอนเตอร์เทนที่บ้านหลังหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากนั้นนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น รับสารภาพว่าพาผู้ตายที่อยู่ในสภาพเมาไม่ได้สติกลับจากบ้านหลังนั้นมาที่ห้องของตน แต่ปฏิเสธไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ ล่าสุดนายรัชเดชเพิ่งได้รับการประกันตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นของแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ พบว่า น.ส.ธิติมาเสียชีวิตจาก หัวใจล้มเหลว มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่พบสารคัดหลั่ง สารเสพติดและร่องรอยการต่อสู้บนร่างกาย

ขณะเดียวกัน วันที่ 17 ต.ค.62 ตำรวจเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นสมาชิกภายในบ้านที่มีการจัดปาร์ตี้ 5 คน คือ 1.นายชัยพล หรือคิว พรรณา เจ้าของบ้าน 2.นายนที หรือ ตี๋ สถิตพงษ์สถาพร พี่ชายนายคิว 3.น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญตา แฟนนายคิว 4.นายโกเมศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ และ 5.นายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี ใน 3 ข้อหา คือ 1.เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นให้ทำความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นให้ทำความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อทำการอนาจาร และ 3.เป็นผู้สนับสนุน ผู้อื่นให้กระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้อื่น โดยคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล.

โจรใต้บึมป่วนกรุง-ฆ่า 15 ชรบ.

ขบวนการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาปฏิบัติการท้าทายฉีกหน้าหน่วยงานความมั่นคงของรัฐอีกระลอก เมื่อส่ง “กลุ่มคนหน้าขาว”....ไม่มีประวัติการกระทำความผิดขึ้นมาวางระเบิดป่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลพร้อมกันหลายจุด เริ่มตั้งแต่ลอบซุกบึมหลังป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กทม.เมื่อเย็นวันที่ 1 ส.ค.2562 ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประชุมมอบนโยบายในวันรุ่งขึ้น โชคดีมีพลเมืองดีเห็นพิรุธแจ้งหน่วยเก็บกู้ได้ทัน

เช้าวันต่อมา เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ไล่เลี่ยกันหลายแห่งใจกลางเมืองหลวง ประกอบด้วย ร้านมินิโซ ห้างสยามวัน ชั้น 1 ร้านค้าผ้าในตลาดประตูน้ำ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี หน้าคิงเพาเวอร์ตึกมหานคร ลามไปถึงศูนย์ราชการ อาคารบี และกองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. รวมทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีการสืบสวนขยายผลจับกุมกลุ่มโจรใต้ที่ก่อเหตุได้นับสิบคน

ขณะเดียวกันก็เกิดเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อกลุ่มโจรใต้บุกโจมตี....จุดตรวจร่วมชุดคุ้มครองตำบลและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านบ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพระยา อ.เมืองยะลา เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.2562 สังหารหมู่เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร อีกทั้งชาวบ้านเคราะห์ร้ายเสียชีวิตถึง 15 ศพ ก่อนที่กลุ่มโจรใต้จะถูกตามไล่ล่าเด็ดหัวไป 2 ศพ จับกุมได้อีกจำนวนหนึ่ง.

ทลายแก๊งแชร์ “แม่มณี”

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2562 กลุ่มผู้เสียหายจากการร่วมวงเล่นแชร์กับ... “แม่มณี” หรือ น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ ทิพย์ประเวช อายุ 28 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับ การปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เพื่อขอให้ดำเนินคดี และมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ รวมทั้งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และร้องขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.3 พันล้านบาท

วันที่ 29 ต.ค. ศาลอาญาออกหมายจับ ...น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ ทิพย์ประเวช และนายเมธี หรือบอส ชิณภา อายุ 20 ปี แฟนหนุ่ม ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืม อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ก่อนขยายผลจับพวกได้อีก 6 คน ติดตามยึดทรัพย์สินทั้งบ้าน รถยนต์หรู ทองรูปพรรณอีกเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ในหลายจังหวัด

สำหรับ “แม่มณี” หรือ น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ จัดฉากสร้างโปรไฟล์...ว่าเป็นไฮโซนักธุรกิจสาวสวย เป็นผู้บริหารธุรกิจหลากหลายประเภท เปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอาง MANILA THAILAND โดยมีดารานักแสดง อาทิ ลูกเกด-เมทนี กิ่งโพยม พิ้งค์กี้-สาวิกา ไชยเดช ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ ร่วมแสดงความยินดี และยังเป็นเจ้าของสถานบันเทิงกิจการพูลวิลล่า เจ้าของร้านทองแม่มณี 2019 ได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นหลายสาขา เป็นผู้จัดสร้างภาพยนตร์เรื่อง “เซนส์ อาถรรพ์” นำแสดงโดยแน็ก-ชาลี ไตรรัตน์ ขณะเดียวกันก็โชว์การใช้ชีวิตหรูหรา มีรถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์หลายสิบคัน แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่อง...โกหกลวงโลก.

โรคร้ายคร่า “น้ำตาล เดอะสตาร์”

ข่าวช็อกคนวงการ บันเทิง...เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2562 น.ส.บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือน้ำตาล เดอะสตาร์ 5 ดาราสาว อายุ 28 ปี เป็นที่รู้จักจากบท “หมวดรัน” ในละครซิทคอม “ผู้กองเจ้าเสน่ห์” ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาครอย่างกะทันหัน เนื่องจากมีอาการเลือดออก ทางปากและจมูกจำนวนมากจนหมดสติระหว่างนั่งกินข้าวกับแม่ที่บ้านพัก อาการอยู่ในขั้นโคม่า โดยแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากก่อนเกิดอาการดังกล่าวน้ำตาลสุขภาพแข็งแรงดี ต่อมาย้ายไป รักษาตัวต่อที่แผนกผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลศิริราช มีอาการสมองบวมจากการขาดออกซิเจน เกิดจากเลือดที่ออกมาอุดตันทางเดินหายใจ

ต่อมาวันที่ 14 มิ.ย.2562 น.ส.บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือน้ำตาล เดอะสตาร์ 5 ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยอาการสมองบวม แพทย์ได้เก็บชิ้นเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายไปตรวจก่อนแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.62 ระบุว่า...น้ำตาลเป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งเป็นเคสหายาก ประเทศไทยพบ 39 ราย รักษาหายหมด...แต่ “น้ำตาล” ถือเป็นผู้ป่วยรายแรกที่เสียชีวิต!!!