นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านโครงการโรงเรียน ร่วมพัฒนา โดยมีตนเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้รายงานข้อมูลต่างๆ รวมถึงปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข เพื่อให้โครงการนี้ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้มข้น เพราะ ศธ.มั่นใจว่า โครงการที่มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เป็นโครงการที่ดีทั้งยังต่อยอดจากสิ่งที่เคยดำเนินการไปแล้ว

นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือถึงแผนการลดหย่อนภาษีกรณีที่มีการลงทุนด้านการศึกษา จำนวน 200% ให้กับภาคเอกชน ที่จะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาด้วย ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้รายได้ของประเทศหายไปบางส่วน แต่ในการช่วยลงทุนด้านการศึกษา ประเทศจะได้ประโยชน์มากในระยะยาว และหากเรามีมาตรการภาษีที่ชัดเจน มีระบบการดำเนินการที่สะดวกรวดเร็ว ทั้งการลดหย่อนภาษี การจัดการเอกสารต่างๆ ตนมั่นใจว่าจะมีภาคเอกชนอีกมากที่จะมาเข้าร่วมในโครงการนี้

“ภาคเอกชนสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับกฎระเบียบต่างๆที่อาจจะทำให้แผนงานสะดุด อีกทั้งยังมีเรื่อง ผอ.สถานศึกษาในโครงการที่โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่โรงเรียนอื่น ทำให้เกรงว่าการขับเคลื่อนโครงการจะไม่ต่อเนื่อง โดย ศธ.เตรียมวางแนวทางที่จะสร้างแรงจูงใจในกรณีที่ขับเคลื่อนโรงเรียนตามโครงการได้เป็นอย่างดีจนประสบความสำเร็จ ก็อาจจะเพิ่มแรงจูงใจให้” รมว.ศธ.กล่าว.