นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยถึงการปรับเปลี่ยนแผนการตลาดใหม่ ว่า ด้วยปัจจุบันราคาซื้อขายยางของไทยจะไปอิงราคาตลาด SICOM TOCOM เป็นหลัก แต่ปรากฏว่าเวลาปิดตลาด ซื้อขายของไทยกลับไม่ตรงกับ 2 ตลาดหลัก บ้านเราปิดช้ากว่าเขาส่งผลให้ การซื้อขายยางในบ้านเราถูกกดราคารับซื้อตลอดเวลา
“อย่างตลาดเซี่ยงไฮ้ SICOM ปิด 10.30 น. แต่ตลาดซื้อล่วงหน้า TFEX ของบ้านเรา เวลาปิดอยู่ที่ 11.00 น. ช้ากว่าเขาครึ่งชั่วโมง ทำให้พ่อค้ารู้แล้วว่า ราคาที่เซี่ยงไฮ้ปิดตลาดอยู่ที่ซื้อเท่าไหร่ ไม่ควรจะซื้อแพงกว่านี้ เราปิดตลาดช้ากว่าเขาไปอีกครึ่งชั่วโมงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะพ่อค้าไม่ซื้อแพงไปมากกว่า แถมยังจะเป็นการเปิดช่องให้นักเก็งกำไรกดราคาไปให้ต่ำกว่านี้อีกต่างหาก ดังนั้นเพื่อให้การคาดเดาราคาของนักเก็งกำไรในบ้านเรากดราคาได้ยากขึ้น กยท.จึงจะเปลี่ยนเวลาปิดตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้าของบ้านเรา ให้ปิดพร้อมกับตลาดหลัก โดยจะทำให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้”
...
นายสุนันท์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาราคายางมีหลายวิธี แต่ต่อไป กยท.จะเลือกวิธีไม่ใช้เงินไปซื้อไปอุ้มตลาดยาง แต่จะใช้แนวทางการปรับปรุงตลาดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตลาดกลางยางพารา ตลาดซื้อขายล่วงหน้า ตลาดโบรกเกอร์ รวมทั้งจะสร้างตลาดให้เกษตรกรรายย่อยเข้ามามีส่วนร่วมในการประมูลด้วย ไม่ใช่ปล่อยมีตลาดที่มีแค่พ่อค้าไม่กี่บริษัทมาร่วมประมูลได้
“เรียกว่า ต่อไปทุกคนไม่ว่าใคร ล้วนมีสิทธิเข้าร่วมประมูลซื้อยางได้ในทุกตลาด โดยการเปิดการให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือต่างชาติ สามารถเข้ามาลงทะเบียนประมูลได้ทางเว็บไซต์ โดย กยท.จะให้ผู้ดูแลเว็บไซต์วางข้อกำหนดให้ผู้ประมูลต้องปฏิบัติตาม หากเข้ามาประมูลแบบไม่ถูกต้องตามข้อกำหนด หรือทำผิดกติกา อย่างเช่น เข้ามาดูเว็บไซต์เพื่อส่องราคา แต่ไม่เคยประมูลเลย จะถูกดีดหรือกีดกันออกไปจากระบบ จะเป็นวิธีการทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อขายจริงๆได้เข้ามาตลาด ไม่ใช่คิดจะเข้ามาปั่นป่วนราคายางพารา และเมื่อการประมูลในแต่ละวันเสร็จสิ้น การซื้อขายจะบอกเพียงแค่ราคาปิดตลาด จะไม่บอกชื่อผู้ประมูลราคายางว่าเป็นใคร หรือบริษัทไหน เพื่อป้องกันการเก็งกำไรจากสต๊อกยาง”.