การสำรวจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ข้าวนาปีและข้าวนาปรัง เป็นสินค้าที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ของ จ.ปทุมธานี...แต่จากการบริหารจัดการพื้นที่ตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) กลับพบว่า ปทุมธานี มีพื้นที่ที่มีความเหมาะสมปลูกข้าว 323,679 ไร่ ไม่เหมาะสม 21,418 ไร่ ไม่ต่างกับพื้นที่อื่นในภาคกลาง เพราะดินมีลักษณะเหมือนกัน

โดยพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกข้าวทำให้ชาวนามีกำไรจากข้าวนาปีเฉลี่ยไร่ละ 1,448 บาท ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสมมีกำไร 1,290 บาท...ข้าวนาปรัง พื้นที่เหมาะสมมีกำไรเฉลี่ยไร่ละ 1,007 บาท พื้นที่ไม่เหมาะสมกำไรเฉลี่ย 997 บาท

แล้วพื้นที่ไม่เหมาะสมปลูกข้าวควรปรับเปลี่ยนมาเป็นอะไรดี...???

กล้วยหอมทอง กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 20,363 บาท กำไรไร่ละ 26,646 บาท...ฝรั่งกิมจู ต้นทุนการผลิตไร่ละ 19,123 บาท กำไรไร่ละ 25,877 บาท...เตยหอม ขายได้ 3 แบบ ตัดต้นขาย ขายเฉพาะ ใบ และขายหน่อแขนง ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง มีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อถึงสวน ต้นทุนการผลิตไร่ละ 16,397 บาท กำไรไร่ละ 15,103 บาท

...

มะระจีน เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ระยะการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 45 วัน ต้นทุนการผลิตไร่ละ 14,597 บาท กำไรไร่ละ 8,647 บาท...หญ้าปูสนาม ระยะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 35-40 วัน ต้นทุนไร่ละ 8,325 บาท กำไรไร่ละ 11,460 บาท...ไก่พื้นเมือง ต้นทุนการผลิตตัวละ 90 บาท กำไรตัวละ 54 บาท

สำหรับในส่วนของพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกข้าว ควรส่งเสริมสร้างมูลค่าโดยรวมกลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ผลิตข้าวบริโภค ข้าวหอมหรือข้าวนิ่มเพื่อการแปรรูป เช่น น้ำมันรำข้าว ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเชื่อมโยงหาช่องทางตลาด ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-5640-5005-8 หรืออีเมล zone7@oae.go.th

สะ–เล–เต