นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีเหตุเตาแก๊ส ปิกนิกแบบใช้ก๊าซอัดกระป๋องระเบิดในร้านหมูกระทะบุฟเฟต์แห่งหนึ่งที่ตลาดนัดเลียบทางด่วนรามอินทรา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายนั้น เนื่องจากเตาก๊าซแบบกระป๋องเป็นแบบที่ใส่ด้านล่างของเตา เมื่อจุดเตาทำให้มีความร้อนก็จะเกิดความเสี่ยง เพราะความร้อนด้านบนเปิดแบบรุนแรงเกินไปจะส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมที่กระป๋องก๊าซด้านล่าง และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความร้อนสูงพอ ก็จะเกิดการติดไฟและระเบิด จึงไม่ปลอดภัยในการใช้บนโต๊ะอาหาร
“กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 ในเรื่องการควบคุมสุขลักษณะสถานที่ขาย ห้ามใช้ก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารบนโต๊ะหรือที่รับประทานอาหาร หากฝ่าฝืน ต้องโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท รวมถึงกฎหมายท้องถิ่นได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพฯ เรื่องสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ. 2545 ข้อ 9 (10) ห้ามใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในการทำ ประกอบ ปรุงอาหาร บนโต๊ะรับประทานอาหารในสถานที่จำหน่ายอาหาร หากฝ่าฝืนต้องโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท ส่วนการนำมาใช้ในบ้าน ไม่ควรใช้เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน เพราะจะเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้ กระป๋องก๊าซระเบิดได้” รองอธิบดีกรมอนามัยกล่าว.