นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ว่า ขณะนี้การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาที่คณะสงฆ์กำลังดำเนินการอยู่ มีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก และเกิดผลเห็นได้ชัดในหลายเรื่อง เช่น มีการจัดระเบียบตามวัดต่างๆไม่ให้เป็นพุทธพาณิชย์มากเกินไป มีการออกแนวปฏิบัติในการบรรพชาอุปสมบท มีการจัดการดูแลทรัพย์สินวัดให้เป็นระบบ เป็นต้น ส่วนเรื่องการศึกษาของคณะสงฆ์มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว

ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการโปรดเกล้าฯประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ในเรื่องการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์นั้นถือว่ามีประโยชน์และช่วยประชาชนได้เยอะมาก นับเป็นอีกบทบาทที่สำคัญของคณะสงฆ์ โดยจะมีการนำบุตรหลานของพุทธศาสนิกชนเข้ามาบวชแล้วให้การศึกษาฟรีจนจบการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ที่ผ่านมากลับถูกหลายฝ่ายมองข้าม ทั้งที่เป็นการเรียนฟรีที่แท้จริง และถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แต่จะต้องบวชเป็นพระภิกษุสามเณรก่อนเท่านั้น ซึ่งส่วนตัวมองว่าการส่งเสริมการเข้ามาบวชเรียนจะทำให้มีคนสนใจเข้ามาบวชมากขึ้น

นายสุวพันธุ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาตนยังมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกฯลงพื้นที่ร่วมกับทางพศ. เวลาเกิดปัญหาขึ้นกับวัดในพื้นที่ต่างๆ และรายงานกลับมายังตน ซึ่งมีข้อเสนอจากทางผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกฯกลับมาว่า อยากให้คณะสงฆ์ทบทวนการให้เอกชนเช่าพื้นที่ของวัด เช่น เรื่องหลักเกณฑ์ การขออนุญาต การกำหนดราคา เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งตนได้ทำเรื่องแจ้งมายัง พศ. เพื่อให้เสนอไปยังที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) แล้ว

...

ส่วนกรณีที่ที่ประชุม มส. มีมติรับทราบโครงการธนาคารเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาของธนาคารออมสินนั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยวัดดูแลแนวทางดำเนินการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดให้เป็นระบบ.