นายมณเทียน แสนดะหมื่น นักวิชาการเกษตรชำนาญการ รักษาการหัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1 กรมวิชาการเกษตร เผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาสายพันธุ์โกโก้และทดลองปลูกร่วม 5 ปี ว่า ได้ผลผลิตดี โกโก้ให้ผลผลิตทั้งปี และสามารถเก็บผลผลิตได้ทุก 7 วัน จนสามารถนำมาแปรรูปเป็นโกโก้ผง เครื่องดื่มช็อกโกแลต และช็อกโกแลตแท่งเมืองสามหมอกได้แล้ว และเตรียมที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกสร้างรายได้ ให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะยังมีผู้ปลูกจำนวนน้อยมาก แต่มีความต้องการตลาดยังสูง
สำหรับสายพันธุ์ที่เหมาะจะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ มีอยู่ด้วยกัน 3 สายพันธุ์...พันธุ์คริโอโล ลักษณะผลใหญ่มีสีแดงหรือเขียว ผลสุกมีสีเหลือง เปลือกบางนิ่ม เม็ดในสีน้ำตาล, พันธุ์ฟอรัสเทอร์โร่ ผลป้อม ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีเหลือง เมล็ดในสีน้ำตาล และ พันธุ์ลูกผสมชุมพร 1 ผลป้อม ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีเหลือง เมล็ดในสีม่วง และมีลักษณะเด่นกว่า ปลูก 2 ปีให้ผลผลิตเฉลี่ย 127.2 กก.ต่อต้นต่อปี
วิธีปลูกที่เหมาะสม รักษา การหัวหน้าศูนย์ วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน บอกว่า จากการทดลองปลูก 2 แบบ ทั้งแบบผสมผสาน และปลูกแบบพืชเชิงเดี่ยว การปลูกเชิงเดี่ยวในช่วงแรกจะยุ่งยากในการดูแลต้นโกโก้ขนาดเล็ก เพราะต้องการแสงแดดประมาณ 30% แต่ต้องการแดดมากขึ้น 60-70% เมื่อต้นโกโก้ให้ผลผลิตแล้ว จึงต้องสร้างร่มเงาให้โกโก้ก่อน แล้วค่อยตัดร่มเงาออกภายหลัง ส่วนการปลูกแบบผสมผสานเป็นพืชแซมในสวนมะพร้าว หรือผลไม้อื่นจะดีกว่า
...
ส่วนวิธีการนำผลผลิตมาแปรรูป หลังจากเก็บผลโกโก้มาแล้ว ให้นำผลไปทุบ หรือใช้มีดผ่า แล้วแกะเมล็ดออกจากเปลือก ดึงไส้ที่ติดมากับเมล็ดออก จากนั้นนำเมล็ดผึ่งแดด 3-4 ชั่วโมง และนำไปหมักในภาชนะปิดฝานาน 6 วัน 3 วันแรกควรกลับด้านด้วย ครบ 6 วันนำไปตากแดด หรืออบแห้งด้วยอุณหภูมิไม่เกิน 80 ํC นาน 1-2 วัน สามารถบรรจุถุงนำไปจำหน่ายได้ทันที หรือจะแปรรูปด้วยการบดย่อยทำเป็นโกโก้ผงสำหรับชงเป็นเครื่องดื่ม และหากจะแปรรูปไปเป็นช็อกโกแลตแท่ง ต้องนำเข้าเครื่องอัดแรงดันสูง ต้องการข้อมูล เพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ 08-9998-0425.