ปีครึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรเลี้ยงไก่ไข่ต้องแบกภาระขาดทุนต่อเนื่อง ภาครัฐมีหลายมาตรการทยอยออกมาแก้ไขปัญหาไข่ล้นตลาด
ล่าสุดขอความร่วมมือผู้ประกอบการนำเข้าและเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ (PS)-ปู่ย่าพันธุ์ (GP) ช่วยกันปลดพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ PS ไปอีกกว่า 1 แสนตัว ให้เหลือ 4.6 แสนตัว ปลดไก่ไข่ยืนกรงอายุ 25-60 สัปดาห์ 1 ล้านตัว และการรวบรวมไข่ไก่ 60 ล้านฟอง ดันส่งออก งานนี้ซีพีรับไป 40 ล้านฟอง เบทาโกร 10 ล้านฟอง รายอื่นอีก 10 ล้านฟอง...จะว่าไปแล้วถ้าดันส่งออกกันขนาดนี้ ผู้ประกอบการบางรายแทบไม่เหลือไข่ให้ขายในประเทศ
แต่ระหว่างกำลังขับเคลื่อนแก้ปัญหา มีการตั้งข้อสงสัยบริษัทพี่ใหญ่อย่างซีพีว่าเป็นต้นเหตุ เพราะนำเข้าไก่ไข่ปู่ย่าพันธุ์ GP 4,000 ตัว และใช้สูตรคิดคำนวณแบบเปิดตำราฝรั่ง...แม่ไก่ GP 1 ตัว ให้ลูกไก่ PS ตัวเมีย 77 ตัว ฉะนั้นแม่ไก่ GP 4,000 ตัว จะได้แม่ไก่ PS 3.08 แสนตัว
เลยตั้งปุจฉา...เอ็กบอร์ดให้โควตาซีพี เลี้ยง PS แค่ 1.45 แสนตัว แล้วแม่ไก่ PS ส่วนเกินอีก 1.63 แสนตัว หลุดไปอยู่ที่ไหน แอบเอาไปซุ่มเลี้ยงเกินโควตา...ไข่เลยล้นตลาดเพราะอย่างนี้รึเปล่า
ฟากฝั่งซีพีที่ตกเป็นจำเลยชี้แจงการเลี้ยงแม่ไก่ GP ของตัวเอง ไม่ได้ผลเลิศเลอเพอร์เฟกต์เหมือนในตำราฝรั่งแต่ประการใด
การเลี้ยงจริงในทางปฏิบัติไก่ฝรั่งที่เอามาเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศต่างกันสุดขั้วอย่างบ้านเรา การเลี้ยงแม่ไก่ GP 1 ตัวของซีพี ได้ PS ตัวเมีย แค่ 42 ตัว...ฉะนั้นนำเข้า GP 4,000 ตัว จึงได้ PS 1.68 แสนตัว
ส่วนที่เกินโควตาไป 14,000 ตัว ไม่ได้หายไปไหน คนในวงการรู้ดี บริษัทไหนซื้อไปเลี้ยงตามโควตาของตัวเอง
สำหรับเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ GP เพื่อให้ทุกบริษัทนำเข้า PS เหมือนกัน...มีคำถามว่า จำเหตุการณ์ที่ยุโรป แหล่งเลี้ยง GP เพื่อผลิตลูกไก่ PS ป้อนให้กับไทย เกิดปัญหาไข้หวัดนกขึ้น จนทำให้ไม่มีแม่ไก่มาเลี้ยงและไข่ขาดตลาดกันได้ไหม...อย่าคิดแก้ปัญหาแบบพูดเอามันส์ปากก็แล้วกัน.
...
สะ–เล–เต