เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) นำผู้แทนวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ตอัพ ประมาณ 400 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเสนอแนะให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไข พัฒนา ข้อติดขัดของสตาร์ตอัพ หรืออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมเป็นศูนย์กลางสตาร์ตอัพของโลก โดยวางตำแหน่งของประเทศไทยเป็นเวทีสำหรับสตาร์ตอัพจากทั่วโลกเพื่อเข้าสู่ตลาดเอเชีย ต่อจากนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแรงกระเพื่อมในประเทศไทย นอกจากนั้น ต้องการให้ประเทศไทยเป็นประเทศสตาร์ตอัพ เป็นประเทศที่คิดทำงาน และเคลื่อนไหวแบบสตาร์ตอัพ ทั้งต้องการดึงดูดนักวิจัยใหม่ๆ และผู้ประกอบการรายใหม่ เพื่อเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทย เพื่อเป็นเป้าหมายดึงดูดนักลงทุนและสตาร์ตอัพจากทั่วโลก

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลเริ่มดำเนินการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม โดยได้พัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัพได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปคือแผนการผลักดันสตาร์ตอัพไทยระยะที่ 2 (ปี 2562-2564) โดยมียุทธศาสตร์ 3I คือ Inovation สนับสนุนให้สตาร์ตอัพพัฒนานวัตกรรมที่มีระดับการใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง และมีรูปแบบธุรกิจที่ให้บริการมากขึ้น Investment ดึงดูดให้มีการลงทุนในสตาร์ตอัพไทยที่มีขนาดการลงทุนสูงขึ้น และ Interationalization ทำให้สตาร์ตอัพไทยมีความเป็นสากลมากขึ้น โดยการขยายความร่วมมือไปยังหลากหลายประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการจัดทำ พ.ร.บ.สตาร์ตอัพ เพื่อให้เกิดทิศทางและการแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบในเรื่องสตาร์ตอัพที่ชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.).

...