นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยถึงผลการประชุม กนป. ว่า จากปัญหาในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรหันมาปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะสร้างรายได้ดีกว่าพืชทางเลือกชนิดอื่น ส่งผลเกษตรกรทำสวนปาล์มกันมากขึ้น เห็นได้จากปีนี้ ไตรมาสแรกของปี 2561 (ม.ค.-มี.ค.) มีผลผลิตออกมามากถึง 15.18 ล้านตัน ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีผลผลิต 14.24 ล้านตัน

กนป.จึงแก้ปัญหาด้วยการเร่งระบายสต๊อกส่งออก ธ.ค.2560-มี.ค.2561 สามารถส่งออกไปอินเดียเป็นหลัก จำนวน 279,772 ตัน และทั้งเก็บสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบไว้สำหรับผลิตไบโอดีเซลเพิ่มอีก 60,256 ตัน

“เพื่อให้ปริมาณสต๊อกอยู่ในระดับที่เหมาะสม เกษตรกรไม่เสี่ยงที่เจอปัญหาราคาตก ที่ประชุมยังมีมติให้ผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 46,600 ตัน ไปยังประเทศอินเดีย ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้น การส่งออกอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ราคาปาล์มภายในประเทศไม่เกิดวิกฤติราคาตกต่ำ”

นายวิณะโรจน์ บอกต่ออีกว่า กนป.มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์ หารือแนวทางในการบริหาร กำหนดโครงสร้างราคาที่เป็นธรรมทั้งระบบ พร้อมทั้งหาแนวทางให้เกษตรกรปลูกปาล์มให้เป็นไปตามมาตรฐาน RSPO ดูแลตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมันให้เหมาะสมกับสภาพ

ดิน เพาะปลูกปาล์มน้ำมันต้นใหม่แทนที่ต้นเก่าเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ สามารถลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาดินเสื่อมคุณภาพ และลดพื้นที่การปลูกปาล์มในพื้นที่ป่าสงวน พร้อมส่งเสริมอาชีพทางเลือกเพื่อให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้ ด้วยการให้กรมปศุสัตว์สำรวจความ ต้องการ และส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงแพะและอบรมการนำใบปาล์มหมักทำอาหารสำหรับใช้เลี้ยงแพะในสวนปาล์ม.

...