มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก 7 องค์กรพันธมิตร ใน 7 สาขา รวม 9 รางวัล ผ่านโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม Partnership for the Betterment” ประจำปี 2560
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า ครั้งนี้เป็นปีที่ 11 คัดเลือกบุคคลหรือองค์กรผู้ทำความดีที่สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ทำความดีอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ได้มอบรางวัลแก่บุคคลและองค์กรผู้ทำความดีไปแล้ว 78 ราย ใน 7 สาขาในทั่วประเทศ และนี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งของผู้เข้ารับรางวัลทั้งหมดในปี 2560
นายวรินทร์ อาจวิไล ครูต้นกล้วย วัย 25 ปี ได้รับคัดเลือกจากมูลนิธิดวงประทีป ครูต้นกล้วยเกิดและโตในชุมชนคลองเตย มีโอกาสได้เรียนดนตรี เพราะมิชชันนารีที่เข้ามาในชุมชนได้นำดนตรีมาสอน
ครูต้นกล้วยบอกว่า ตอนแรกไม่ชอบ แต่เมื่อเห็นเพื่อนเล่นได้ดี อยากเอาชนะ จึงขยันเรียนรู้ จนขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ได้รับการสนับสนุนให้เรียนต่อจนจบเอกไวโอลินคลาสสิก ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และได้เข้าเป็นสมาชิกของวงไทยแลนด์ ฟิวฮาโมนิกออเคสตรา (TPO ของ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข)
ครูต้นกล้วยเปิดโรงเรียนสอนดนตรีคลาสสิกที่โบสถ์คริสตจักรอิมมานูเอล ลูเธอร์แรน ให้กับเด็กๆในชุมชนคลองเตยทุกเย็นโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ภายหลังมีเด็กมาเรียนมากขึ้น จึงลาออกจากวงมาทุ่มเทการสอนดนตรี โดยเริ่มปูพื้นฐานทางดนตรีให้ทุกคน อ่านตัวโน้ตเป็น สอนและฝึกให้เล่นจนเก่ง
ครูต้นกล้วยอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงศักยภาพของเด็กในชุมชนว่า ไม่ได้ด้อยกว่าเด็กข้างนอก หากพวกเขาได้รับโอกาส โดยผสานความร่วมมือขอความช่วยเหลือทั้งจากครูและเพื่อน รวมทีมตั้งเป็นวงออเคสตรา ชื่อวงดนตรีอิมมานูเอลขึ้น นำคณะเด็กๆเปิดการแสดงใต้ทางด่วนในชุมชน
...
ครูต้นกล้วยมั่นใจว่าดนตรีจะเป็นเกราะป้องกันยาเสพติด
“เด็กมีอะไรก็จะปรึกษาครู ทำให้ครอบครัวอบอุ่น มีความสุขพ่อแม่แวะเวียนมาดูลูกซ้อม ทำอาหารมาแบ่งปันกันกิน ถามไถ่ถึงพัฒนาการเล่นดนตรี”
“ผมพยายามบอกตัวเอง ที่เราได้โอกาสนี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผมมีหน้าที่ส่งต่อ เหมือนอาจารย์เคยบอกว่า เขาไม่ต้องการเป็นนักดนตรีที่ดี แต่สามารถสอนให้คนอื่นเป็นนักดนตรีที่ดีที่เก่งได้ เราไม่สามารถทำให้คนรวยได้ แต่สามารถทำให้สังคมน่าอยู่ได้โดยใช้ดนตรี” ครูต้นกล้วยว่า
ครูต้นกล้วยเติบโตมาในชุมชนแออัด อยากเปลี่ยนมุมมอง อยากให้คนเห็นว่าที่นี่เป็นแหล่งผลิตดนตรีคลาสสิกที่ดี ไม่ใช่แหล่งมั่วสุม
คุณประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ เลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป บอกว่า “การแก้ไขปัญหายาเสพติดก็เหมือนกับการตัดหญ้า หากเรามีเครื่องมือดีหญ้าก็ราบ แต่พอฝนตกมา หญ้าก็ขึ้นมาอีก เช่นเดียวกับเยาวชนในชุมชนที่หากไม่ได้รับการพัฒนาทางความคิดที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะเป็นยังไง
เมื่อเหงา น้อยใจ พอเพื่อนชวนไปใช้ยา ก็เริ่มติดยา การแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงต้องเป็นแบบบูรณาการ มีความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นฐานในการที่จะดูแลลูกหลาน”
คุณประทีปบอกว่า ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิดวงประทีป ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เยาวชนในชุมชนแออัด มีการพัฒนาทางด้านจิตใจและปัญญาและมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง
แม้เกิดมายากจน แต่ในท่ามกลางความยากแค้นนั้น หากเยาวชนได้มีความเพียรพยายาม มีความอดทน ในการฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลาย ก็จะสามารถสร้างตัวเองให้มีความรู้ มีความคิดที่จะต่อสู้กับปัญหา มีการพัฒนาตนเองในทางบวก และเติบโตเป็นพลังที่ดี เป็นกำลังที่เข้มแข็ง ช่วยขับเคลื่อนสังคมและอนาคตของประเทศชาติได้
ในการพิจารณาคัดเลือกคนดี เพื่อเป็นต้นแบบของการทำดี มีความเสียสละ และการสร้างประโยชน์ให้สังคมส่วนรวม เป็นแรงบันดาลใจให้คนในชุมชน ให้เข้ารับรางวัลประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ สาขาการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนและสังคม ในโครงการ SET เชิดชูคนดีเพื่อสังคม ในแต่ละปี
“เราก็จะไปเฟ้นหาคนที่มีจิตอาสา อุทิศตนทำงานให้ชุมชนมาต่อเนื่องอย่างน้อย 3-4 ปี ที่มีความมุ่งมั่น เสียสละ ไม่ทิ้งงาน มีผลงานเป็นที่ยอมรับและก่อให้เกิดประโยชน์แก่เด็กและเยาวชนในชุมชน และช่วยป้องกันปัญหายาเสพติด”
ครูประทีปบอกว่า ครูต้นกล้วยเป็นคนดีของชุมชนที่ได้รับรางวัลในปีนี้ เป็นคนหนุ่มที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีพรสวรรค์ในงานและยังเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน ให้ตระหนักว่า การมุ่งมั่น เสียสละในทางที่ดีนั้น มีคนเห็น และมีคนชื่นชม อยากให้กำลังใจ และการทำดียังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ
ดังนั้น จึงอย่าไปกลัวความลำบาก อย่าไปกลัวความยาก อย่าไปกลัวว่าเราจะทำไม่ได้ ขอให้เรามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ อุปสรรคทั้งหลายที่เข้ามาจะเป็นเพียงแค่บททดสอบศักยภาพของเราเท่านั้น
ถ้าหากว่าเรายังคงมุ่งมั่นและทำต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุด เหมือนมีคนพูดว่า “การวิ่งไม่ใช่ว่าคุณต้องวิ่งเร็วเสมอไป ขอแค่คุณวิ่งอย่าหยุดแล้วกัน” อันนั้นก็จะเป็นคำตอบของความสำเร็จ
นางเกศรา มัญชุศรี บอกว่า มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานมอบรางวัลเกียรติยศ บุคคลและองค์กรผู้ทำความดี ในโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม Partnership for the Betterment” ประจำปี 2560 ให้แก่ผู้เสียสละและอุทิศตนเพื่อเกื้อกูลประโยชน์ต่อสังคมใน 7 สาขา รวม 9 รางวัล
สาขาการพัฒนาการศึกษา รางวัล ศ.สังเวียน อินทรวิชัย มูลนิธิศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ได้แก่ นายบุญรุ้ง สีดำ, สาขาการพัฒนาห้องสมุด รางวัลศาสตราจารย์ คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ได้แก่ ชมรมข้าราชการและครูอาวุโสของกระทรวงศึกษาธิการ, นางกัญญา มุสิกา และนางคนึงนิตย์ เขียวสมบัติ
...
สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนและสังคม รางวัล “ประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ” มูลนิธิดวงประทีป ได้แก่ นายสวาสดิ์ ธรรมสุจริต, นายวรินทร์ อาจวิไล (ครูต้นกล้วย)
สาขาการส่งเสริมกีฬา รางวัลพลตรีสำเริง ไชยยงค์ สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่มีผู้รับรางวัล
สาขาการพัฒนาสังคมเมือง รางวัลอิสรเมธี มูลนิธิวิมุตตยาลัย ได้แก่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม)
สาขาการพัฒนาสังคมชนบท รางวัลมีชัย วีระไวทยะ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านท่ามะพร้าว และสาขาการส่งเสริมดนตรี รางวัลสุกรี เจริญสุข มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ได้แก่ คณะนักร้องประสานเสียงมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ
พิธีการแจกรางวัล มีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ หอประชุม ศาสตราจารย์ สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 7 อาคารบี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ขอชื่นชมความดีกับบุคคลในสาขาต่างๆ ที่ได้รับการคัดเลือก ติดตามเรื่องราวความดีของบุคคลตัวอย่างแห่งปี 2560 เพิ่มเติมได้ที่ www.setsocialimpact.com และ Facebook : SET Social Impact นางเกศรา ทิ้งท้าย.