เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมทั่วประเทศ

ระทมหนัก !!! ชาวบ้านโอดครวญ หลังประสบอุทภกัยน้ำท่วมติดต่อกันหลายปี หนี้สินเก่าเมื่อครั้งกู้มายังไม่หมดสิ้น น้ำท่วมคราวนี้ต้องกู้หนี้ยืมสินอีกเท่าไหร่ ขณะที่ตัวยังต้องทนแช่น้ำ ไม่กล้าทิ้งบ้านออกไปรับสิ่งของช่วยเหลือ ล่าสุดมีประกาศเตือนจังหวัดสุรินทร์ เตรียมรับมือน้ำท่วมเอ่อ...

เริ่มกันที่ เมื่อเวลา 09.00 น. ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสภาวะน้ำท่วมในเขตจังหวัดนครราชสีมา เป็นบริเวณกว้างตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำจากจังหวัดนครราชสีมาบางส่วน ได้เริ่มไหลลงสู่แม่น้ำมูลแล้ว คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำมูล ในบางอำเภอของจังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดถัดไป

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จึงได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำมูล ในเขตอำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการป้องกันล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย และป้องกันน้ำไหลเข้าที่พักอาศัย รวมถึงพื้นที่การเกษตร พร้อมกับขอให้ทำการขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง และยานพาหนะขึ้นไปไว้บนที่สูงแล้ว หากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร กรมชลประทาน จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

ส่วนจังหวัดสระบุรี ที่อำเภอเสาไห้ ระดับน้ำยังสูงประมาณ 1.20 เมตร และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงมากขึ้น ขณะที่ชาวบ้านโอดครวญยังได้รับความช่วยเหลือไม่ทั่วถึง และต้องทนทุกข์ทรมานในเรื่องการขับถ่าย ที่จะต้องขับถ่ายในถุงมานานติดต่อกันหลายวัน

ขณะที่ชาวบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เดือดร้อนหนัก โดยนายอำเภอบ้านหมี่ รู้สึกเป็นห่วงชาวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ เนื่องจากเมื่อปี 2551 ต้องประสบปัญหาอุทกภัยมาแล้วก่อนหน้า ทำให้ชาวบ้านวิตกเรื่องหนี้สิน อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.50 น. ระดับน้ำสูงเกือบ 3 เมตร แต่ยังขาดสิ่งของที่จะมาช่วยเหลือ เนื่องจากชาบ้านไม่สามารถออกนอกบ้านได้ เพราะเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน

และที่จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอลำปลายมาส น้ำจากจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าท่วมถนนหลายสาย โดยเฉพาะเส้นทางกระทิง-หินโคน ที่ขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร

ด้านจังหวัดนครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครรราชสีมา ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัด เกิดขึ้นมานานนับเดือน แต่ที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 14 ต.ค. เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมตลาด ชุมชน และตัวเมือง โดยที่น้ำมีระดับที่สูงมาก จนถึงขณะนี้พื้นที่เกือบทั้งหมดของจังหวัด ต้องจมบาดาลอย่างปฏิเสธไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้พยายามเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาปัญหาให้กับประชาชนเป็นการเบื้องต้น

และที่อำเภอแก้งสนามนาง น้ำจากลำน้ำชี ซึ่งไหลทะลักมาจากจังหวัดชัยภูมิ เข้าท่วมอำเภอแก้งสนามนางอย่างรวดเร็ว โดยระดับน้ำสูงขึ้น 50 เซนติเมตรต่อ 1 ชั่วโมง เข้าท่วมหมู่บ้านในหลายตำบล ซึ่งตำบลที่หนักที่สุด คือ หมู่บ้านแก่งโก บ้านหนองสะเดา บ้านหนองโดน บ้านโมกมัน บ้านโนนอุดม บ้านกอก และบ้านแก้งสนามนาง ซึ่งอยู่ติดกับลำชี น้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร

ขณะเดียวกันที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มมีน้ำท่วมแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเรือท้องแบนมาสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยให้สามารถออกมาจากบ้านได้ ขณะที่วัดใหญ่ชัยมงคล น้ำได้เข้าท่วมโบราณสถานเป็นบางส่วน ขณะที่ถนนบ้านหมี่-ลพบุรี หน้ามณฑลทหารบกที่ 33 มีน้ำไหลผ่าน แต่ยังอยู่ในระดับที่รถยังสามารถสัญจรไปมาได้ อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดลพบุรี อาจส่งผลให้พี่น้องชาวอยุธยาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้น

ส่วนจังหวัดชัยนาท อำเภอสรรพยา ประชาชนได้เร่งขนย้ายสิ่งของไปอยู่ไว้บนท้องถนน เนื่องจากมีการปล่อยน้ำในเขื่อนออกมาตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา โดยชาวบ้านต้องไปอาศัยภายในเต้นท์และเพิงบนถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ เบื้องต้นมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 800 หลังคาเรือน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชาวบ้านยังขาดน้ำดื่ม ไฟส่องสว่าง และสุขาชั่วคราว ทั้งนี้คาดว่า จะมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนอีก 1-2 วัน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวที่บ้านถูกน้ำท่วม รายงานว่า น้ำจากจังหวัดลพบุรีก้อนใหญ่ มาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น จนทะลักเข้าบังเกอร์ที่กั้นหน้าวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ เจ้าหน้าที่เร่งดูดน้ำตั้งแต่ช่วงเมื่อคืน จนน้ำมันหมดและครื่องพังเสียหาย ขณะที่ยังหวั่นน้ำที่จะมาถึงอีกใน 2-3 วันนี้ ส่วนหน้าวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ระดับเหลืออีก 20 ซ.ม. ส่วนโบราณสถานป้อมเพชรและหมู่บ้านโปรตุเกสน้ำท่วมฐานหมดแล้ว

ส่วนหน้าวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ระดับน้ำยังเหลืออีก 20 ซ.ม. น้ำถึงจะท่วม ส่วนโบราณสถานป้อมเพชรและหมู่บ้านโปรตุเกสน้ำท่วมฐานหมดแล้ว และที่ อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง ระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร ทำให้ถนนสายโพธิ์พญา-ท่าเรือ หมู่ 3 ต.บ้านร่อม ถูกตัดขาดเป็นระยะทาง 2 กม. ส่วนที่ อ.ภาชี อ.มหาราช อ.บ้านแพรก และ อ.บางปะหัน ต้องเร่งขนของไว้ในที่สูง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก และแม่น้ำน้อย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ 10-20 ซ.ม. ส่วนน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมาได้กระจายตัว ไปตามบ้านเรือนที่อยู่ริม 2 ฝั่งคลอง ทำให้ระดับน้ำสูง 2-3 เมตร ปริมาณน้ำไหลชนคันกั้นน้ำของชลประทาน และบางแห่งไหลข้ามคันเข้าท่วมแปลงนาข้าว ทำให้ท่วมหนักทุกพื้นที่รวม 16 อำเภอแล้ว

ต่อกันที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครรราชสีมา น้ำได้เข้าท่วมถนนยาวกว่า 10 กิโลเมตร และได้เข้าท่วมตัวเมืองพิมายอย่างรวดเร็ว โดยน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ขณะที่ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปมาได้ มีเพียงการสัญจรทางเรือเท่านั้น ที่สามารถนำชาวบ้านออกมาจากบ้านได้

ที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร น้ำจากแม่น้ำปิงกำลังเอ่อล้นตลิ่ง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมที่ว่าการอำเภอขาณุวรลักษบุรี โรงพยาบาล และส่วนราชการอีกหลายแห่ง ซึ่งระดับน้ำสูงถึง 40 เซนติเมตร ประชาชนต้องลุยน้ำไปติดต่อทำธุรกรรมกับหน่วยงานราชการด้วยความยากลำบาก ขณะที่ตามบ้านเรือนราษฎร ที่อยู่ติดริมน้ำ ก็ถูกน้ำเข้าท่วมเช่นกัน ประชาชนต้องขนของขึ้นที่สูง ถนนภายในหมู่บ้านเกือบทุกสายมีน้ำไหลหลากท่วม โดยเฉพาะหมู่ที่ 1,2,3,4,5 ตำบลแสนตอ หมู่ที่ 1,2,3,10,12 ตำบลป่าพุทรา หมู่ที่ 1 ตำบลยางสูง อำเภอขาณุวรลักษบุรี ทำให้การจราจรภายในหมู่บ้านไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่ถนนสายตำบลวังบัว อำเภอคลองขลุง น้ำไหลเข้าท่วมถนนบางช่วงยาวกว่ากิโลเมตร บางช่วง 500 เมตร รถสัญจรไปด้วยความยากลำบาก บ้านเรือนที่อยู่ตามสองข้างทางถูกน้ำท่วมเช่นกัน

สำหรับสถานการณ์น้ำจังหวัดสิงห์บุรี ระดับน้ำที่อำเภออินทร์บุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำลงในแม่น้ำเจ้าพระยา 2,878 ลบ.ม./วินาที ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วม พากันขนย้ายข้าวของหนีกันวุ่นวาย โดยเฉพาะในตลาดสดอินทร์บุรี พื้นที่ราบลุ่มบางแห่ง ระดับน้ำสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร พ่อค้าแม่ค้าพากันขนข้าวของหนีน้ำ มากางเต้นท์อาศัยอยู่บริเวณริมคันคลองชลประทาน การสัญจรไปมาของประชาชนต้องนั่งรถอีแต๋นและเรือพาย

ส่วน อ.เมืองสิงห์บุรี น้ำได้เอ่อทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านเขตชุมชนเทศบาล 6 ชุมชน ที่ประชาชนอาศัยอยู่ ฝั่งตะวันตกของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีบ้านเรือนนับพันหลังได้รับความเดือดร้อน

ด้านกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี ได้มีการนำกระสอบทรายมาทำคันกั้นน้ำสูง 2 เมตรแล้ว แต่หลังจากที่น้ำได้เข้าท่วมในหลายพื้นที่ อาจต้องทำคันกั้นน้ำให้สูงกว่า 2 เมตร ซึ่งเชื่อว่า จะสามารถรองรับน้ำที่จะมาถึงได้