ชี้ปี 60 ช่วยชาติประหยัดงบกว่า 6 พันล้าน ดัน 3 โครงการสร้างความมั่นคง
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวในการแถลงข่าวผลการดำเนินงานปี 2560 และทิศทางการดำเนินงานของ อภ.ในอนาคตว่า ในปี 2560 อภ.มียอดจำหน่าย 15,905 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2559 จำนวน 750 ล้านบาท ซึ่งในอนาคต อภ.มี 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการวิจัยพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็ง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตยารักษาโรคมะเร็งได้ด้วยตนเอง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคายาลดลง 50% ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้มากขึ้น ทำให้ประเทศมีความมั่นคงด้านยา โดยมุ่งเน้นผลิตยารักษาโรคมะเร็งในทุกกลุ่ม ได้แก่ ยาเคมีบำบัดชนิดเม็ดและฉีด ซึ่งเป็นยาพื้นฐานในการรักษาโรคมะเร็งที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกายและยารักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็งหรือยามุ่งเป้า ทั้งชนิดเม็ด ยาฉีด และชีววัตถุคล้ายคลึงประเภท
ไบโอซิมิลา (Biosimilar) โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย 1.นำเข้าเพื่อจำหน่าย และแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์ภายใน 2 ปี ควบคู่กันไปกับการวิจัยและพัฒนายา 2.การก่อสร้างโรงงานซึ่งจะใช้เวลา 4-5 ปี และ 3.ดำเนินการผลิตเพื่อจำหน่ายด้วยตนเองซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 8 ปี คาดว่าจะสามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อจำหน่ายได้ในปี 2568 และได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ ปตท. ศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างโรงงานผลิตยารักษามะเร็ง โดยจะเริ่มผลิตยารักษามะเร็งที่พบมากในเพศหญิงคือ มะเร็งปากมดลูก และเต้านม และมะเร็งที่พบมากในเพศชายคือ มะเร็งปอด ตับและต่อมลูกหมากก่อน
นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า 2.โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิตระยะที่ 2 ที่ จ.ปทุมธานี รวมถึงสร้างคลังที่ใช้สำรองวัตถุดิบและอุปกรณ์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2561 และจะเสร็จในปี 2564 และ 3.โครงการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โดยมุ่งเน้นวิจัย พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากสมุนไพร นอกจากนี้จากการที่ อภ.เข้าไปเป็นกลไกในการจัดหาและสำรองเพื่อรักษาสมดุลและตรึงราคายานั้นช่วยสร้างการเข้าถึงยาให้ประชาชนมากขึ้น โดยในปี 2560 อภ.ช่วยประหยัดงบในการจัดหายาให้ภาครัฐได้ถึง 6,398 ล้านบาท.
...