นอกจากขับเคลื่อนภาพลักษณ์ในหน้างานบริการแล้ว
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ภายใต้ยุค พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท.ยังได้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.เป็น “หัวหอก” รวบรวมขุมกำลังปฏิบัติการเชิงรุกปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเมืองไทย
ฟอร์มทีมงานหลายหน่วยร่วมลุยกวาดล้างเครือข่ายผู้กระทำผิดกฎหมาย
ตั้งแต่เปิดฉากล้างขบวนการ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” เลี่ยงภาษีประเทศชาติ ทำรายได้รัฐสูญหายไปจำนวนไม่น้อย
มีทีมงานระดับมันสมอง อาทิ พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.คธม.บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง
นอกจากนี้ ยังแกะรอย ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ เครือข่ายข้ามชาติที่อาละวาดสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวไทยและต่างชาติเป็นวงกว้าง นำไปสู่การตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เปิดช่องทางเยียวยาหาเงินคืนให้บรรดาผู้เสียหาย
กำเนิด “ยุทธการอินทรีทมิฬ Black Eagle” เก็บกวาดผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติผิวสีทั่วประเทศที่เข้ามาตั้งองค์กรอาชญากรรม ค้ายาเสพติด ฟอกเงิน และค้ามนุษย์ตามแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชาวแอฟริกัน
ถือเป็นปัญหาด้านความมั่นคง ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ประเทศด้านการท่องเที่ยว
ไม่นับรวมถึงการกำหนดแผนจับอาวุธปืนเถื่อน แก๊งแว้นตามท้องถนนหลวงยามราตรี และบรรดาโต๊ดเถื่อนในสนามม้า
ทำให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มีศักยภาพ และ “เขี้ยวเล็บ” น่าเกรงขามอีกหน่วยของตำรวจ อวดผลงานโดดเด่นรายวัน
วัดความเป็นตัวจริงของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล นายพลหนุ่มมาดนุ่ม สมกับที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจส่งไปแสดงเนื้องาน
...
ประสานทีมคุณภาพออกกำราบโจรได้เช่นกัน!!!
สหบาท