“ปู่ทวดเป็นหมอยาแผนโบราณ ก่อนจะลาจากโลกได้บอกสูตรตำรับยาสมุนไพรไว้ให้ สืบทอดต่อๆ กันมารุ่นสู่รุ่น ด้วยความเชื่อว่า ยาขนานนี้ กินแล้วช่วยชะลอแก่ มีอายุยืนยาวกว่าคนทั่วๆไป ตำรายานี้มีส่วนผสมของสมุนไพรกว่า 22 ชนิด อย่าง รากตองแตก หัสคุณ ดีปลี กานพลู ฯลฯ”

แต่ด้วยการศึกษายุคนี้มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ไม่ใช่สักแต่ทำตามที่เขาบอกเล่าว่าตามกันมา ฉัตรชัย ชนะสัตย์, ตรีภพ เฉลิมพร และ วรเมศ ยอดเถื่อน นักศึกษาวิทยาการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงนำสูตรยาสมุนไพร 22 ชนิดตามสูตรปู่ทวด มาตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็บ โดยมี ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา พบว่า สูตรยาแผนโบราณดังกล่าว มีสารกระตุ้นที่เรียกว่า SIRT-I, Foxo-I เป็นเอนไซม์ที่ช่วยยับยั้งการแก่ตัวของเซลล์ และยังมีสารกระตุ้นการเจริญของเซลล์ได้สูงถึง 44% มีฤทธิ์กระตุ้นยีนชะลอความแก่ได้ถึง 80%

เทียบได้กับสารมาตรฐานเรสเวอราทอล (Resveratrol) ของตำรายาฝรั่งที่สกัดจากเปลือกผลองุ่น เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ โรคแก่ก่อนวัย โรคมะเร็ง เบาหวาน ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด

...

“เมื่อรู้ถึงสรรพคุณที่สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงทดลองนำมาเป็นเครื่องดื่ม แต่รสชาติขมมาก แทบจะดื่มไม่ได้ จึงหาวิธีนำผลไม้อย่างอื่นมาทดลองผสมเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น ผสมกับน้ำส้ม ไม่ช่วยอะไรได้เลย รสชาติยังขมเหมือนเดิม ทดลองผสมกับน้ำองุ่นก็ยังไม่ดีขึ้น สุดท้ายทดลองผสมกับน้ำว่านหางจระเข้ ได้ผลดีที่สุด ดื่มง่าย ความขมลดลง ยิ่งนำน้ำองุ่นขาวมาเติมลงไปด้วย แทบไม่มีกลิ่นสมุนไพรหลงเหลือ ความขมจางหายไป และถ้าเติมเนื้อว่านหางจระเข้ลงไปมากขึ้น จะกลายเป็นเครื่องดื่ม ที่สามารถดื่มได้ตั้งแต่เด็กมีอายุ 7 ขวบขึ้นไป”

และเมื่อนำผลงานชิ้นนี้ส่งเข้าประกวดในงาน NOVEL RESEARCH AND INNOVATION COMPETITON 2017 ณ ประเทศมาเลเซีย ทำให้ได้รับรางวัลเหรียญเงิน ประเภท Life science สนใจนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ สอบถามรายละเอียดได้ที่วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย 0-2592-1999 ต่อ 1112.