เหล้า-ไวน์ก็ด้วยเริ่มดีเดย์16ก.ย.บี้พ่อค้า‘กักตุน’

ครม.เห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสุราและบุหรี่ โดยสุราที่มีดีกรีสูงจะถูกจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นและยังถูกเก็บภาษีจากราคาขายปลีก ส่วนบุหรี่ทุกซองราคาเพิ่มขึ้นแน่ เพราะถูกเก็บภาษีสองเด้ง ทั้งจากราคาขายปลีกและปริมาณอีกมวนละ 1.50 บาท หรือซองละ 30 บาท (20 มวน) “รมช.คลัง” ยัน “ภาษีบาป” ยึดหลักสุขภาพ-หวังลดปริมาณนักดื่ม ย้ำเครื่องดื่มดีกรีสูงต้องเก็บภาษีมากกว่า ชี้ “เบียร์” เก็บน้อยกว่าเหล้า

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกันนี้ มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคลังว่าด้วยกำหนดอัตราภาษีสินค้าประเภทสุรา ยาสูบ และไพ่ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.2560 คาดว่าจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาก่อนวันที่มีผลบังคับใช้ หรือในวันที่ 15 ก.ย.2560 หลังจากนั้น กรมสรรพสามิตจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราภาษีและพระราชบัญญัติทั้งหมดให้รับทราบอีกครั้ง

นายสมชายกล่าวอีกว่า ส่วนอัตราภาษีประเภทอื่นที่ ครม.เห็นชอบไปก่อนหน้านี้แล้ว จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีก 1-2 วันนี้ ยืนยันการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ส่วนสถานการณ์การกักตุนสินค้า ได้ประสานงานให้ผู้ประกอบการแล้ว การดำเนินการครั้งนี้เป็นการขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้นเท่านั้น

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่าจะยังไม่มีการแถลงโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่จะใช้จัดเก็บสุราและยาสูบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกักตุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งในที่ประชุมว่า จะต้องมีการอธิบายหลักเกณฑ์ของโครงสร้างการจัดเก็บภาษีใหม่ให้ชัดเจนทันทีที่มีการประกาศใช้ทั้งในส่วนของสุรา ไวน์และบุหรี่ เบื้องต้นที่กรมสรรพสามิตได้อธิบายต่อ ครม. ว่า กรณีของสุราไม่ได้จัดเก็บจากมูลค่าหรือราคา แต่จะจัดเก็บจากดีกรีหรือความแรงของแอลกอฮอล์ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการดูแลสุขภาพของประชาชน มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เก็บภาษีจากราคาหน้าโรงกลั่นมาเป็นตามราคาขายปลีก ส่วนบุหรี่จะเก็บภาษีทั้งในส่วนของมูลค่าหรือราคาและยังมีการจัดเก็บภาษีจากปริมาณหรือคิดอัตราภาษีต่อมวนด้วย

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากหลักการจัดเก็บภาษีดังกล่าว จะมีผลทำให้สุราที่มีดีกรีสูง เช่น เหล้าขาว ถูกจัดเก็บภาษีสูงขึ้น ส่วนไวน์จะจัดเก็บจากราคาขายปลีก โดยราคาที่ต่ำกว่าขวดละ 1,000 บาท จะมีอัตราการจัดเก็บถูกกว่าไวน์ที่มีราคาที่เกินกว่า 1,000 บาทต่อขวด จึงไม่เกี่ยวข้องว่า เป็นไวน์ผลิตในประเทศหรือเป็นไวน์นำเข้า ส่วนโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตของบุหรี่ ที่จัดทำขึ้นใหม่ในครั้งนี้จะมีผลให้ราคาบุหรี่ทุกชนิดเพิ่มขึ้น ทำให้ช่องว่างของบุหรี่ราคาถูกและบุหรี่ราคาแพงลดลง โดยบุหรี่ราคาถูกจะถูกเก็บภาษีจากฝั่งมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่วนบุหรี่ราคาแพงถูกเก็บภาษีในฝั่งมูลค่าเต็มเพดานแล้ว นอกจากนั้น บุหรี่ทุกชนิดทุกยี่ห้อจะถูกเก็บภาษีจากฝั่งปริมาณอีกมวนละ 1.50 บาท แสดงให้เห็นว่าบุหรี่ราคาถูก จะมีราคาเพิ่มขึ้นสองเด้ง ส่งผลช่องว่างของบุหรี่ราคาถูกและบุหรี่ราคาแพงลดลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ กรมสรรพสามิตชี้แจง ครม.ว่า รัฐไม่ได้ต้องการเพิ่มรายได้แต่ต้องการปรับโครงสร้างภาษี ให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น โดยทั้งหมดนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดแถลงข่าวในวันที่ 15 ก.ย. ก่อนที่จะมีผลหลังเที่ยงคืนของวันที่ 15 ก.ย. กรมสรรพสามิตระบุว่า จะต้องจับตาดูการกักตุนสินค้าของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าด้วย การปรับโครงสร้างภาษีครั้งนี้ จะแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา โดยจะมีสินค้าบางประเภทที่ถูกจัดเก็บภาษีลดลง และบางประเภทที่ถูกจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ดังนั้น ต้องจับตามองสินค้าที่เก็บภาษีลดลงว่าผู้ขายจะจำหน่ายในราคาเดิม โดยอ้างว่าเป็นสต๊อกเก่า หรือยอมลดราคาขายลง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภค เพราะทุกครั้งที่มีการปรับภาษีเพิ่มขึ้น ผู้ขายจะปรับขึ้นราคาสินค้าในทันที

ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าว ว่า อัตราภาษีสินค้าสุรา และยาสูบแบบใหม่ ได้กำหนดเพดานภาษีขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มแต่ละชนิดว่ามากหรือน้อย โดยหลักการเราคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ สุขอนามัยเป็นหลัก เดิมทีโครงสร้างภาษีเหล้ากับเบียร์จะอิงตามราคาขายมากกว่าปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ในกฎหมายฉบับใหม่ ได้ให้น้ำหนักไปตามความแรงของแอลกอฮอล์มากขึ้น ภาษีเบียร์จะถูกกว่าเหล้า เพราะเต็มที่แค่ 7 ดีกรีเท่านั้น ส่วนเหล้าประมาณ 40 ดีกรี เชื่อว่าการปรับอัตราภาษีครั้งนี้ จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงราคาจำหน่ายอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับยาสูบและบุหรี่ จากเดิมคิดตามมูลค่าและตามน้ำหนัก ราคาแพงเสียสูง ราคาถูกเสียต่ำ เพื่อจะลดผู้บริโภคหน้าใหม่ แต่ได้เปลี่ยนจากคิดตามน้ำหนักมาคิดตามมูลค่าราคาขายต่อมวน

นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สินค้าเหล้าและบุหรี่ กรมสรรพสามิต เป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว เมื่อมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต จนส่งผลให้ราคาขายปลีกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือปรับขึ้นหรือลง กรมสรรพสามิตจะเป็นผู้ตรวจสอบสถานการณ์จำหน่าย สถานการณ์ราคา รวมถึงการ กักตุน หรือปฏิเสธการขายของร้านค้าเอง ยกเว้นว่า หากประชาชนร้องเรียนมายังกรมการค้าภายในว่า หาซื้อเหล้า บุหรี่ไม่ได้ หรือกรมสรรพสามิตขอความร่วมมือมายังกรมฯให้ช่วยตรวจสอบ จึงจะตรวจสอบสถานการณ์จำหน่ายให้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือปฏิเสธการขาย ร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน 1569 กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที หากพบผู้ค้ากระทำผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29 โดยจะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

ส่วนนางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กล่าวว่า ขณะนี้ กำลังการผลิตของโรงงานยาสูบไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยยังคงยอดการผลิตเอาไว้ที่ 28,000 ล้านมวนต่อปี ส่วนอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่จะมีผลให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่เห็นอัตราภาษีใหม่ แต่เชื่อว่า ร้านค้าส่งและร้านค้าปลีกคงมีการกักตุนสินค้าบ้างแล้วในช่วง 6-10 เดือนที่ผ่านมา เพราะมีกระแสข่าว เรื่องการปรับขึ้นอัตราภาษีสุราและบุหรี่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โรงงานยาสูบเองจะหยุดการผลิต หรือไม่จำหน่ายบุหรี่ในช่วงนี้ก็ไม่ได้ เพราะจะยิ่งส่งผลกระทบให้หนักมากขึ้นไปอีก ส่วนราคาขายส่งของโรงงานยาสูบที่ขายให้เอเย่นต์ยังคงราคาเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่ในวันที่ 16 ก.ย. ซึ่งเป็นวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว จะต้องพิจารณาว่าอัตราภาษีใหม่เก็บเพิ่มขึ้นหรือลดลง แต่หากปรับขึ้นอัตราภาษีก็จะปรับราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

...

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมสรรพสามิตว่าขณะนี้กรมสรรพสามิตได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศติดตามจับตาการกักตุนสุราและยาสูบอย่างใกล้ชิด ขณะนี้พบผู้ผลิตเอกชนบางรายผลิตสินค้าในอัตราที่มากขึ้น หรือมีการนำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น แต่จำนวนไม่มากนักจนผิดสังเกต เพื่อให้สินค้าที่ผลิต หรือนำเข้าก่อนวันที่ 16 ก.ย. เสียภาษีในอัตราเดิมโดยกรมสรรพสามิตมั่นใจว่าสินค้าอาจจะมีการกักตุนบ้างแต่คงไม่มากนัก