การประท้วงอย่างสงบในเมืองฮัมบวร์กลุกลามกลายเป็นความรุนแรงเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้ชุมนุมและตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย วันเดียวก่อนจะเริ่มการประชุม จี20 ที่โดนัลด์ ทรัมป์จะร่วมประชุมครั้งแรก...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ชุมนุมราว 12,000 คน ออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้านแนวคิดโลกาภิวัตน์ในเมืองฮัมบวร์ก ทางเหนือของประเทศเยอรมนีเมื่อวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายกลายเป็นความรุนแรง เมื่อตำรวจเข้าสกัดและใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมผู้ประท้วงฝ่ายซ้ายจัดที่มีประมาณ 1,000 คน

โฆษกตำรวจเมืองฮัมบวร์กบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เจ้าหน้าที่พยายามใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมถอดหน้ากากออกแต่ผู้ชุมนุมเมินเฉย และขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะแยกกลุ่มฝ่ายซ้ายจัดกลุ่มนี้ออกจากผู้ประท้วงคนอื่นๆ ก่อนจะเกิดการปะทะกันขึ้น มีตำรวจได้รับบาดเจ็บถึง 76 คน ขณะที่ผู้ประท้วงก็ได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก

...

อนึ่ง การประท้วงดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นในชื่อ ‘ขอต้อนรับสู่นรก’ (Welcome to Hell) เกิดขึ้นเพียงวันเดียว ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี20) จะเริ่มขึ้นในวันที่ 7-8 ก.ค. นี้ โดยการประชุมครั้งนี้ได้รับการจับตามองอย่างมาก เพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะได้เข้าร่วมประชุมตัวต่อตัวเป็นครั้งแรก และเขาจะได้ประชุมร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เป็นครั้งแรกอีกด้วย

ทั้งนี้คาดกันว่า ในช่วงก่อนและตลอดการประชุม จี20 จำนวน 2 วัน จะมีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงมากกว่า 100,000 คน โดยพวกเขากล่าวหาว่า ระบบทุนนิยมที่กลุ่ม จี20 ยึดมั่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสงคราม, ภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว ขณะที่ตำรวจได้จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 20,000 นายพร้อมทั้งรถหุ้มเกราะ, เฮลิคอปเตอร์ และโดรนลาดตระเวนไปคอยรับมือแล้ว