สหรัฐอเมริการะทึกขวัญอีกครั้ง หลังเกิดเหตุกราดยิงสยองภายในเมืองออร์ลันโด รัฐตากอากาศ ฟลอริดา ชื่อดังทางภาคใต้ ก่อนหน้าวันครบรอบ 1 ปี เหตุก่อการร้ายยิงถล่มบาร์เกย์ 49 ศพในเมืองเดียวกัน กระนั้นสืบสวนเบื้องต้นเชื่อไม่ใช่เหตุก่อการร้าย แต่เป็นความขัดแย้งในที่ทำงาน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงภายในอาคารที่ทำงานแห่งหนึ่ง ย่านวินเทอร์ พาร์ค ชานเมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือช่วงค่ำวันเดียวกันตามเวลาไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ศพ ไม่ทราบจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักงานนายอำเภอเขตออร์เรนจ์ เคาน์ตี เปิดเผยเบื้องต้นว่า คดีครั้งนี้เกิดเหตุบริเวณย่านอุตสาหกรรม โกดังเก็บสินค้าบริเวณถนนฟอร์ซินธ์ และถนนแฮงกิง มอสส์ ชานเมืองออร์ลันโด และจากการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า คนร้ายเสียชีวิต

ในที่เกิดเหตุเท่ากับว่าสถานการณ์คลี่คลายลงแล้วแต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆไปมากกว่านี้ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นดับเบิลยูเอฟทีวี รายงานอ้างการเปิดเผยแหล่งข่าวตำรวจระบุว่า มีเหยื่อเคราะห์ร้าย 4 ศพ ขณะที่อีก 1 ศพ คือ คนร้าย

...

ต่อมานายเจอร์รี เดมมิง นายอำเภอเขตออร์เรนจ์ เคาน์ตี ออกแถลงการณ์สรุปคดีว่า เหตุกราดยิง เกิดเมื่อเวลา 08.03 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ คนร้ายก่อเหตุเป็นชาวอเมริกัน เพศชาย วัย 45 ปี อดีตพนักงานบริษัท ไม่เปิดเผยชื่อ ที่มีประวัติกระด้างกระเดื่องต่อที่ทำงาน และได้บุกเข้าไปฆ่าอดีตเพื่อนร่วมงานภายในสำนักงานของบริษัทโดยใช้อาวุธปืน และมีด ซึ่งเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุพบเหยื่อเคราะห์ร้ายบาดเจ็บสาหัส 1 คน ไปเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาล และร่างเหยื่อเสียชีวิตอีก 3 ศพ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทั้งหมด 4 ศพ เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ขณะที่คนร้ายได้จบชีวิตตัวเองฆ่าตัวตาย ในที่เกิดเหตุ คดีนี้จึงถือเป็นเหตุการใช้ความรุนแรงในที่ทำงาน ไม่ถือเป็นคดีก่อการร้ายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า เหตุยิงสะเทือนขวัญดังกล่าว ยังเกิดขึ้นก่อนหน้าครบรอบ 1 ปี เหตุก่อการร้ายวันที่ 12 มิ.ย.2559 นายโอมาร์ มาทีน ชาวอเมริกันเชื้อสายอัฟกานิสถาน วัย 29 ปี ผู้ฝักใฝ่แนวคิดกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส กราดยิงในพัลซ์ ไนต์คลับ สถานที่เที่ยวกลางคืนของคนรักร่วมเพศ ภายในเมืองออร์ลันโด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 49 ศพ บาดเจ็บ 53 คน ซึ่งถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่สหรัฐฯ