วุฒิสภาแห่งประเทศบราซิล ลงคะแนนเสียงถอดถอนนาง ดิลมา รูสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศอย่างเป็นทางการแล้ โดยมิเชล เทเมอร์ รักษาการประธานาธิบดีจ่อรับตำแหน่งแทน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาแห่งประเทศบราซิล ลงคะแนนเสียงถอดถอนนาง ดิลมา รูสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 31 ส.ค. จากความผิดฐานตกแต่งบัญชีงบประมาณประเทศ ยุติการปกครองของพรรคแรงงานฝ่ายซ้ายที่ดำเนินมานาน 13 ปี

ส.ว.บราซิลลงคะแนนเสียงเห็นชอบ 61 เสียง ต่อคัดค้าน 20 เสียง ซึ่งเกินกว่าจำนวน 2 ใน 3 ที่ต้องการเพื่อถอดถอนนางรูสเซฟฟ์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และหลังจากนี้นายมิเชล เทเมอร์ จากพรรคพีเอ็มดีบี ฝ่ายกลางขวา ซึ่งเป็นรักษาการประธานาธิบดีอยู่ตอนนี้ จะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในวาระการดำรงตำแหน่งที่เหลือของนางรูสเซฟฟ์ ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 1 ม.ค. 2019 โดยคาดกันว่านายเทเมอร์จะสาบานตนรับตำแหน่งในภายในวันพุธนี้

ในช่วงที่ผ่านมา นางรูสเซฟฟ์ถูกกล่าวหาว่าโยกย้ายเงินทุนระหว่างงบประมาณต่างๆ ของรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายในบราซิล เพื่ออุดช่องว่างของการขาดดุลงบประมาณในโครงการประชานิยมของเธอ เพื่อเพิ่มโอกาสที่เธอจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนต.ค. 2014 อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของบราซิลผู้นี้ปฏิเสธและพยายามต่อสู้กับข้อกล่าวหาของเธอ ซึ่งเธอระบุว่าเป็นความพยายามรัฐประหาร

...

ทั้งนี้ กระบวนการถอดถอนนางรุสเซฟฟืเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย. หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบ 367 เสียงต่อ 137 ให้มีการพิจารณาถอดถอนนางรูสเซฟฟ์ ต่อมาในวันที่ 12 พ.ค. วุฒิสภาโหวตเห็นชอบให้เริ่มกระบวนการถอดถอนนางรูสเซฟฟ์ออกจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 55 เสียง ต่อ 22 เสียง ทำให้นางรูสเซฟฟ์ถูกพักงานและนายเทเมอร์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการประธานาธิบดี

ต่อมาในวันที่ 9 ส.ค. วุฒิสภาบราซิลลงโหวตมติตั้งข้อหาแก่นางรูสเซฟฟ์ ด้วยคะแนนเสียง 59 ต่อ 21 เสียง ทำให้เธอถูกดำเนินคดีจนกระทั่งวุฒิสภามีลงคะแนนเสียงถอดถอนในวันพุธที่ผ่านมา