(ภาพจาก : AP)
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายเท็ด ครูซ ส.ว.รัฐเท็กซัส วัย 45 ปี ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งผู้แทนพรรครีพับลิกันประจำรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา โดยได้คะแนนสัดส่วน 48.25 เปอร์เซ็นต์ เหนือคู่แข่งหลักคือนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีปากจัดวัย 69 ปี ที่ได้คะแนนตามเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 35.12 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ศึกเฟ้นหาตัวแทนพรรคไปลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ยังคงยากที่จะคาดเดาทิศทาง
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากชัยชนะดังกล่าวแม้จะไม่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในลำดับตัวเต็งของพรรครีพับลิกัน นายทรัมป์ยังคงครองคะแนนเสียงผู้แทนเป็นอันดับ 1 ขาดอีก 497 เสียง ส่วนนายครูซอยู่อันดับ 2 ขาดอีก 723 เสียงในการได้รับเลือกเป็นผู้แทนพรรค แต่กรณีนี้อาจกลายเป็นตัวแปรส่งผลถึงการโหวตคัดเลือกตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่แนชนัล คอนเวนชั่น ปลายเดือน ก.ค. เพราะหากไม่มีผู้สมัครของพรรคคนใดได้คะแนนเสียงครบ 1,237 เสียงตามเกณฑ์แล้ว การคัดเลือกตัวแทนก็จะตกเป็นหน้าที่ของแกนนำพรรคในการเลือกผู้สมัครไปลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งย่อมไม่ใช่นายทรัมป์แน่นอน
ด้านนายทรัมป์กล่าวว่า แม้จะแพ้ในรัฐวิสคอนซินแต่ตนก็จะชนะในท้ายที่สุด นายเท็ด ครูซเป็นอะไรที่แย่ยิ่งกว่าหุ่นเชิด เขาเป็นเหมือนม้าโทรจันที่เหล่าแกนนำของพรรครีพับลิกันส่งมา หวังจะมาขโมยตำแหน่งตัวแทนพรรคไปลงแข่งศึกประธา-นาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นายทรัมป์พ่ายแพ้ในรัฐวิสคอนซิน เนื่องมาจากว่านายทรัมป์ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ว่าหญิงที่ทำแท้งควรจะถูกลงโทษ การกล่าวโจมตีภริยาของนายครูซ รวมถึงกรณีที่ผู้จัดการการหาเสียงของนายทรัมป์ใช้กำลังกับผู้สื่อข่าวหญิง ทำให้สูญเสียคะแนนนิยมจากฐานเสียงสตรี
...
สำหรับการเลือกตั้งผู้แทนพรรครีพับลิกันลำดับถัดไป จะมีขึ้นในวันที่ 19 เม.ย. ที่รัฐนิวยอร์ก ตามด้วยวันที่ 26 เม.ย. การเลือกตั้งพร้อมกัน 5 รัฐ ที่คอนเนกติกัต เดลาเแวร์ แมรีแลนด์ เพนซิลเวเนีย และโรดส์ไอแลนด์ โดยคะแนนเสียงทั้ง 6 รัฐดังกล่าวจะอยู่ที่ 267 เสียง
วันเดียวกัน นายเบอร์นี แซนเดอร์ส ส.ว.รัฐเวอร์มอนต์ วัย 74 ปี ได้รับชัยชนะเหนือนางฮิลลารี คลินตัน อดีต รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งผู้แทนพรรคเดโมแครตในรัฐวิสคอนซิน แต่คะแนนยังตามเป็นอันดับ 2 ขาดอีก 1,327 เสียง ส่วนนางฮิลลารีขาดอีกประมาณ 640 เสียง ในการได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรค.