โคคา-โคลา เตรียมถอดส่วนผสมในเครื่องดื่ม ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ออกจากเครื่องดื่มต่างๆในสิ้นปีนี้ หลังถูกกดดันจากสังคม...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า 'โคคา-โคลา' บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก กำลังวางแผนจะถอด 'น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีการเติมโบรมีน' (บีวีโอ) ออกจากการเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มชนิดต่างๆของบริษัทภายในสิ้นปีนี้ หลังจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตล่ารายชื่อร้องเรียน เพราะน้ำมันดังกล่าวถูกห้ามใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารในบางประเทศ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
น้ำมันบีวีโอเป็นวัตถุดิบต้องห้ามในประเทศญี่ปุ่น สหภาพยุโรป รวมทั้งไทย โดยโคคา-โคลาใส่วัตถุดิบชนิดนี้ในเครื่องดื่ม 'เมาน์เทน ดิว' และ 'แอมป์ เอเนอร์จี' ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ มันมีสรรพคุณป้องกันไมให้ส่วมผสมต่างๆแยกตัวจากกัน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของนักวิจัยที่ 'มาโย คลินิค' สถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐฯ ชี้ว่า การบริโภคน้ำมันบีวีโอมากๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่นเสียความทรงจำ มีปัญหาที่ผิวหนังหรือเส้นประสาท
น้ำมันบีวีโอหลุดจากการเป็นส่วนผสม 'ปลอดภัย' ในรายการของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ตั้งแต่ปี 1970 แต่บริษัทผู้ผลิตยังได้รับอนุญาตให้ใช้วัตถุดิบตัวนี้ในปริมาณไม่เกิน 15 ส่วนล้าน อย่างไรก็ตาม โคคา-โคลาไม่ได้ใช้น้ำมันบีวีโอในหลายประเทศมากนักนอกจากสหรัฐฯ และจะเลิกใช้ส่วนผสมตัวนี้ในสินค้าในแคนาดาและลาตินอเมริกา ขณะที่คู่แข่งอย่างเป็ปซี่ ประกาศเลิกใช้น้ำมันบีวีโอในทุกสายการผลิตตั้งแต่สิ้นปีก่อน
ด้าน นายจอช โกลด์ โฆษกของโคคา-โคลา ยืนยันว่า การถอดน้ำมันบีวีโอออกจากการเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาความปลอดภัย "เครื่องดื่มทั้งหมดของเรารวมถึงเครื่องดื่มที่มีน้ำมันบีวีโอผสมนั้น ปลอดภัย และเป็นไปตามกฏเกณฑ์ของแต่ละประเทศที่พวกมันถูกวางจำหน่าย ความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด"
...
ทั้งนี้ การตัดสินใจของโคคา-โคลา เกิดขึ้นหลังจากได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากสังคม โดยน.ส. ซารา คาวานาจ วัยรุ่นหญิงจากรัฐมิสซิสซิปปี เริ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้น้ำมันบีวีโอ และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายพันคนร่วมลงนามในคำร้องออนไลน์ของเธอ บนเว็บไซต์ 'Change.org' โดยเธอกล่าวหลังรู้ความเคลื่อนไหวล่าสุดของโคคา-โคลา ว่ารู้สึกดีใจมากที่รู้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ยอมฟังเสียงผู้บริโภค