วิกฤติยาเฟนทานิล คือหนึ่งในเหตุผลที่สหรัฐฯ ใช้เพื่ออ้างความชอบธรรมในการตั้งกำแพงภาษีต่อ จีน, เม็กซิโก และแคนาดา สถานการณ์ในสหรัฐฯ วิกฤติขนาดไหน แล้วแต่ละประเทศมีส่วนในเรื่องนี้อย่างไร?
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งเพิ่มอัตราการเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนหลากหลายรายการเพิ่มขึ้นอีก 10% โดยกล่าวหาว่า รัฐบาลปักกิ่งล้มเหลวในการหยุดไม่ให้สารตั้งต้นในการผลิตยาเฟนทานิล ซึ่งเป็นยากลุ่มโอปิออยด์ฤทธิ์แรง ถูกส่งออกนอกประเทศ
สหรัฐฯ กล่าวโทษบริษัทต่างๆ ของจีนมานานแล้วว่า ส่งออกสารตั้งต้นไปให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเฟนทานิลทั้งที่รู้อยู่แล้ว ขณะที่ฝ่ายจีนปฏิเสธและตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ด้วยการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรของสินค้าสหรัฐฯ ด้วย
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังกล่าวหาแคนาดากับเม็กซิโกว่าล้มเหลวในการป้องกันแก๊งอาชญากรรม ไม่ให้ลักลอบขนยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ และประกาศใช้มาตรการกำแพงภาษีกับทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน แต่ต่อมา ผู้นำของทั้ง 3 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงเพิ่มการคุ้มกันชายแดน ทำให้สหรัฐฯ เลือนการบังคับใช้คำสั่งของเขาออกไปก่อน 1 เดือน
วิกฤติเฟนทานิลในสหรัฐฯ รุนแรงแค่ไหน?
เฟนทานิลเป็นยาสังเคราะห์ที่ผลิจจากการรวมสารเคมีต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้งานยาตัวนี้เป็นยาแก้ปวดเฉพาะในทางการแพทย์ตั้งแต่ยุคปี ค.ศ. 1960 แต่ในปัจจุบัน กลับมีการผลิตเฟนทานิลอย่างผิดกฎหมายมากขึ้น จนมันกลับกลายเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเสียชีวิตจากการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์เกินขนาดในสหรัฐฯ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ เผยว่า ในปี 2566 มีชาวอเมริกันมากกว่า 74,000 คน เสียชีวิตจากการเสพยาที่มีส่วนผสมของเฟนทานิล โดยยาตัวนี้มักถูกนำไปใช้รวมกับยาเสพติดตัวอื่นๆ เนื่องจากมีฤทธิ์แรงมาก ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้เกิดภาวะไร้ความเจ็บปวด (analgesia) และบรรเทาอาการถอนจากการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์ได้
...
ด้วยสรรพคุณดังกล่าวทำให้ง่ายมากที่ผู้เสพจะใช้ยาเกินขนาดจนเสียชีวิต โดยเฟนทานิลเพียง 2 มม. หรือขนาดเท่าปลายดินสอ ก็เพียงพอทำให้เสียชีวิตได้แล้ว
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ห่วงโซ่อุปทานการผลิตเฟนทานิลในโลกขยายตัวขึ้นอย่างมาก ทำให้เป็นเรื่องยากที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับสมาชิกสภานิติบัญญัติจะควบคุมได้ โดยจีนเป็นแหล่งที่มาหลักของสารตั้งต้นสำหรับผลิตเฟนทานิล
เฟนทานิลเกือบทั้งหมดเข้าสู่สหรัฐฯ ผ่านเม็กซิโก
นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 เจ้าหน้าที่สามารถยึดยาเฟนทานิลในแผ่นดินสหรัฐฯ ได้แล้วกว่า 2,040 กก. ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดยสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน (CBP) ของสหรัฐฯ โดยเกือบทั้งหมด (98%) ถูกสกัดไว้ได้บริเวณชายแดนที่ติดต่อกับเม็กซิโก ไม่ถึง 1% ถูกยึดบริเวณชายแดนแคนาดาทางตอนเหนือ
ส่วนที่เหลือถูกส่งมาตามเส้นทางทะเลหรือจุดตรวจอื่นๆ ของสหรัฐฯ
สำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ (DEA) ระบุว่า องค์กรอาชญากรรมในเม็กซิโก รวมถึง แก๊งซินาโลอา เป็นตัวละครสำคัญในการผลิตและขนส่งเฟนทานิล, เมทแอมเฟตามีน และยาผิดกฎหมายอื่นๆ เข้าสู่สหรัฐฯ โดยสารตั้งต้นถูกลักลอบขนมาจากจีน ก่อนจะผลิตเฟนทานิลจนเสร็จในห้องทดลองในเม็กซิโก แล้วค่อยลักลอบขนเข้าสหรัฐฯ
DEA บอกอีกว่า แก๊งซินาโลอาใช้กลยุทธ์หลากหลายในการปกปิดการขนส่งสารเคมีเข้าสู่เม็กซิโก เช่นซ่อนสารเคมีเอาไว้ในสินค้าถูกฎหมาย, แปะฉลากตู้คอนเทนเนอร์ไม่ตรงปก, ใช้บริษัทบังหน้า และขนส่งผ่านประเทศที่ 3
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหารัฐบาลของเม็กซิโกว่า สมรู้ร่วมคิดกับแก๊งค้ายาเสพติด แต่ประธานาธิบดีเม็กซิโกออกมาปฏิเสธทันที และว่าคำพูดของนายทรัมป์นั้นเป็นการใส่ความ
จีนแหล่งสารตั้งต้นเฟนทานิล
ในปี 2562 จีนจัดเฟนทานิลให้เป็นยาเสพติดชนิดควบคุม และเพิ่มสารเคมีบางชนิดที่ใช้ผลิตยาตัวนี้เข้าสู่รายการด้วย แต่ก็ยังมีสารเคมีตัวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเฟนทานิลถูกขายอยู่ เนื่องจากบางตัวสามารถนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ ทำให้สารเหล่านี้ยังไม่ถูกควบคุม และผู้เกี่ยวข้องกับการค้าขายหาทางหลบเลี่ยงกฎหมายได้เสมอ
เอกสารคำฟ้องหลายฉบับของอัยการสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรายละเอียดที่ได้จากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่ได้สนทนากับผู้ผลิตสัญชาติจีนชี้ว่า บริษัทผู้ผลิตสารเคมีบางแห่งนจีนกำลังขายสารเคมี รวมถึงชนิดที่ถูกควบคุม ทั้งที่รู้ว่ามันจะถูกนำไปใช้เพื่อผลิตยาเฟนทานิล
เอกสารคำฟ้องหลายสิบฉบับที่ตรวจสอบโดย BBC Verify ระบุรายละเอียดของกรณีที่ ผู้ผลิตสัญชาติจีนเผยแพร่วิธีผลิตเฟนทานิลจากผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาขาย ผ่านแพลตฟอร์มเข้ารหัสต่างๆ และชำระค่าใช้จ่ายด้วยเงินดิจิทัล
“นี่เป็นช่วงโหว่ขนาดใหญ่ที่อาชญากรขายผลิตภัณฑ์ถูกกฎหมาย แต่พวกเขารู้ดีว่ากำลังขายมันไปให้องค์กรอาชญากรรม” แวนดา เฟลบับ-บราวนด์ นักวิจัยอาวุโสด้านนโยบายต่างประเทศที่สถาบัน บรูคกิงส์ (Brookings Institute) กล่าว
อย่างไรก็ตาม จีนตอบโต้ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ว่า พวกเขามีกฎหมายต่อต้านยาเสพติดที่เข้มงวดท่าสุดในโลก และเคยมีปฏิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ มาแล้วในอดีต และ “สหรัฐฯ จำเป็นต้องทบทวนและแก้ปัญหาเฟนทานิลของพวกเขาเอง”
ทั้งนี้นอกจากจีนแล้ว อินเดียก็กำลังกลายเป็นแหล่งสารเคมีตั้งต้นสำหรับผลิตเฟนทานิลแห่งใหม่ โดยในปี 2568 มีบริษัทสารเคมีในอินเดีย 2 บริษัท ถูกฟ้องร้องข้อหาขายสารเคมีที่ถูกใช้เพื่อผลิตยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ และเม็กซิโกด้วย
...
แล้วแคนาดามีส่วนอย่างไร?
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาทั้งเม็กซิโกกับแคนาดาว่า ปล่อยให้ผู้อพยพและยาเฟนทานิลจำนวนมากเข้าสู่สหรัฐฯ
ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน (CBP) ชี้ว่า มียาเฟนทานิลเพียง 0.2% เท่านั้นที่สหรัฐณ ยึดได้บริเวณชายแดนแคนาดา ขณะที่เกือบทั้งหมดถูกยึดบริเวณชายแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก
แต่ในเดือนมกราคม สำนักงานข่าวกรองด้านการเงินของแคนาดารายงานว่า องค์กรอาชญากรรมในแคนาดากำลังมีความเกี่ยวข้องกับการผลิตยาเฟนทานิลมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการนำเข้าสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาและซื้ออุปกรณ์สำหรับห้องแล็บผลิตยาจากจีน
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 การค้ายาเฟนทานิลเกิดขึ้นทั้ง 2 ทาง โดยหน่วยงานป้องกันชายแดนแคนาดารายงานว่า ยึดเฟนทานิลที่เข้าสู่ประเทศจากสหรัฐฯ ได้ 4.9 กก. ขณะที่ CBP ของสหรัฐฯ ยึดเฟนทานิลที่ข้ามเข้ามาจากฝั่งแคนาดาได้ 14.6 กก.
เมื่อเดือนธันวาคม 2567 แคนาดาให้คำมั่นว่า พวกเขาจะเพิ่มการใช้จ่าย 1.3 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อต่อสู้กับการผลิตและลักลอบขนยาเฟนทานิล และเพิ่มการรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนมากขึ้นด้วย
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc , yalemedicine