ผมเขียนบทความนี้ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 วันนี้ที่สหรัฐฯ มีการประท้วงนโยบายจับกุมและเนรเทศผู้อพยพหลายแห่ง จากที่เคยสงบ ตอนนี้คนอเมริกันบางส่วนออกไปปิดทางด่วนหมายเลข 101 ทำให้การจราจรกลางเมืองลอสแอนเจลิสเกิดความโกลาหลอลหม่าน ที่นครชิคาโก ประชาชนคนอเมริกันได้มารวมตัวกันนอกอาคาร Trump International Hotel & Tower เพื่อแสดงพลังต่อต้าน
คนอเมริกันบางกลุ่มที่เคยสุขสงบก็ร้อนรนทนไม่ไหว เตรียมยุทธการประท้วงโดยใช้วิธีการสร้างความไม่สะดวก เพื่อดึงดูดความสนใจและเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่กังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งกำลังรวมพลังต่อต้านนโยบายของทรัมป์ที่สนับสนุนการผลิตพลังงานจากฟอสซิล
แอสเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้ทรัมป์เคารพพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน สมาชิกของกลุ่มนี้โกรธแค้นวาทกรรมของทรัมป์ที่ไม่ให้เกียรติผู้อพยพและบุคคลข้ามเพศ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ก็มีการประท้วงปัญหาสิ่งแวดล้อม สิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศ นโยบายการเข้าเมืองและความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ
ที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ สหรัฐฯเม็กซิโก คนกลุ่มใหญ่ประท้วงที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯเรื่องนโยบายการเข้าเมืองของทรัมป์ ที่กรุงบรัสเซลส์เบลเยียม คนก็มาออที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯเพื่อต่อต้านนโยบายสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ
คำสั่งของทรัมป์ทำให้การปฏิบัติงานของกระทรวง ทบวง กรม ปั่นป่วน บางคำสั่งก็ไร้เหตุผล สั่งโดยไม่มีข้อมูลสนับสนุน หลายคำสั่งยังเป็นการบูลลี่ประเทศอื่น เช่น ทรัมป์สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปเยือนปานามา เพื่อส่งคำเตือนไปยังประธานาธิบดีและสั่งให้รัฐบาลปานามาให้ลดอิทธิพลของจีน
ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกร้อยละ 25 โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับการควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเฟนทานิลและการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯในอัตราร้อยละ 25 ครอบคลุมสินค้า 1.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีผลบังคับใช้ 2 ระยะ ระยะแรกคือเมื่อวานนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2025 และระยะที่สองในอีก 21 วันถัดไป
...
แคนาดากำลังทบทวนความร่วมมืออุตสาหกรรม เหมืองแร่ พลังงาน และด้านอื่นกับสหรัฐฯ ทรูโดบอกว่าไม่อยากทำสงครามการค้าด้วย แต่พร้อมที่จะตอบโต้สหรัฐฯทุกเมล็ด เอ๊ย ทุกเม็ด และบอกว่าการสร้างความยุ่งยากที่พรมแดนสหรัฐฯ-แคนาดาจะส่งผลกระทบต่อแรงงานอเมริกันเอง
ทรัมป์บอกว่ารัฐบาลเม็กซิโกสมรู้ร่วมคิดกับองค์กรอาชญากรรม เรื่องนี้ทำให้ประธานาธิบดีเชนบามโกรธและโต้ตอบว่า ถ้าสหรัฐฯต้องการแก้ปัญหายาเสพติด ควรมาร่วมมือกัน ไม่ใช่ตะโกนด่าแต่เพียงอย่างเดียว ตอนนี้เม็กซิโกก็เตรียมขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯร้อยละ 5-20 โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ชีส ผัก ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์เหล็ก และอะลูมิเนียม
ที่กำลังร้องโอ้กอ้ากโครกครากวากโวกอยู่ในขณะนี้ก็คือคนอเมริกันเอง ที่ต้องบริโภคสินค้านำเข้าราคาแพงขึ้น ทั้งเสื้อผ้า อาหาร รถยนต์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รัฐบาลทรัมป์อ้างว่าต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่โลกทุกวันนี้มันระโนงโยงเยงกันทั้งหมด วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าในสหรัฐฯก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯสูงขึ้น
นโยบายของทรัมป์ทำให้ราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อ และค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อของเงินดอลลาร์ลดลง ประเทศต่างๆที่เคยซื้อสินค้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ตอนนี้ก็เริ่มเซย์โน ทำให้สินค้าเกษตรของสหรัฐฯมีปัญหา ชาวไร่ชาวนาไม่มีรายได้ หากทรัมป์ยังคงนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนอย่างเข้มข้น การประท้วงจะเกิดขึ้นในอนาคต การประท้วงไม่ได้เกิดเฉพาะกับคนต่างชาติ แต่จะเกิดกับคนอเมริกันเองด้วย
ท่านผู้ใหญ่ให้สัมภาษณ์ในโซเชียลมีเดียว่าทรัมป์มีสิทธิสมัครประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่ง เพราะการดำรงวาระทั้ง 2 ครั้งนี้ไม่ติดต่อกัน ผมขอเรียนว่าไม่ถูกต้องนะครับ 22nd Amendment หรือบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 22 ของสหรัฐฯกำหนดให้บุคคลดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสูงสุดเพียง 2 สมัย ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น 2 สมัยที่ติดต่อกัน
ทรัมป์ไม่ต้องง้อใครแล้ว จะดีชั่วมั่วยังไง ก็ไม่มีสิทธิสมัครครั้งต่อไป ข้าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นผู้นำประเทศที่มีอำนาจที่สุดในโลก
ข้าเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ข้าจะพูดจะทำยังไงก็ได้.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม