เหตุการณ์คนร้ายใช้มีดไล่แทงเด็กๆในสตูดิโอซ้อมเต้น ที่เมืองเซาท์พอร์ต ภาคกลางของอังกฤษ คร่าชีวิตเด็กหญิง 3 ศพ และบาดเจ็บอีก 10 คน เมื่อปลายเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก สร้างความสลดหดหู่ใจ ยังไม่นับรวมการลุกฮือประท้วงต่อต้านผู้อพยพลุกลามบานปลายเกิดความรุนแรงหลายพื้นที่ทั่วอังกฤษ จากข่าวลือปลุกปั่นกระแสในโลกโซเชียล กล่าวอ้างว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้อพยพชาวมุสลิมหัวรุนแรง
ส่วนฆาตกรเป็นวัยรุ่นผิวสีวัย 17 ปี ชื่อว่า “แอ็กเซล รูดากูบานา” เกิดในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ของเวลส์ ในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นผู้อพยพชาวรวันดา ปัจจุบันมีอายุ 18 ปี เพิ่งถูกศาลอังกฤษตัดสินเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาให้รับโทษจำคุกเต็มแม็กซ์เป็นเวลาอย่างน้อย 52 ปี เป็นโทษจำคุกยาวนานที่สุดสำหรับผู้ต้องหาในวัยเดียวกัน จากการทำร้ายเด็กๆอย่างป่าเถื่อนจนเสียชีวิต 3 ราย รวมทั้งพยายามฆ่าเด็กอีก 8 คน และผู้ใหญ่อีก 2 คน ที่พยายามเข้าช่วยเหยื่อ
ผู้พิพากษายังเน้นว่าจะมีโอกาสได้รับการปล่อยตัวก็ต่อเมื่อคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์บนเชื่อว่าจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อสาธารณชนหลังครบกำหนดจำคุก แม้จะมีแนวโน้มว่าคงไม่ได้รับการปล่อยตัว ต้องถูกจองจำตลอดชีวิต
ที่ผ่านมาสังคมอังกฤษมีประเด็นถกเถียงกันว่าเพราะเหตุใดจึงไม่สามารถป้องกันไม่ให้เหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้เกิดขึ้น ผิดพลาดตรงไหน ทำไมจึงไม่เห็น “สัญญาณ” อันตราย
หลังมีรายงานว่าก่อนการโจมตี 2 ปี พ่อแม่ของฆาตกรวัยรุ่นเคยโทร.แจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือ 4 ครั้ง ในเวลา 6 เดือน เมื่อจับได้ว่าลูกชายพกมีดบนรถบัส อ้างว่าถูกเพื่อนรังแก แต่ตำรวจได้พากลับบ้านและบอกให้แม่เก็บมีดไว้ให้ดี ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุติดต่อกับหน่วยงานบริการสังคมและโครงการด้านสุขภาพจิต
...
สื่ออังกฤษเผยว่าอดีตเพื่อนร่วมชั้นให้ข้อมูลว่ารูดากูบานาหลงใหลผู้นำเผด็จการในประวัติศาสตร์ เช่น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือ เจงกิสข่าน และยังมีรายชื่อของคนที่ต้องการสังหารอีกต่างหาก
ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากอะไร การถูกจองจำไม่ให้เป็นอันตรายต่อสังคม คงเป็นทางออกที่เหมาะสม แต่จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซาก ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายคงต้องคุยกันอีกนาน.
อมรดา พงศ์อุทัย
คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม